ไม่รู้ว่าตั้งครรภ์! สาวเมียนมาวัย 27 ปวดท้องเข้าห้องน้ำ ลูกหลุดกระแทกพื้นดับ

สาวกัมพูชาวัย 27 ไม่รู้ว่าตั้งครรภ์ ปวดท้องเข้าห้องน้ำ ลูกหลุดกระแทกพื้นดับ เจ้าตัวและสามีสงสัยตั้งท้องได้อย่างไรทั้งที่ทานยาคุมกำเนิดตลอด

เมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 17 ก.ค.65 ร.ต.อ.สุวิทย์ ภูดอนนาง พงส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งว่ามีหญิงคลอดลูกในห้องน้ำแล้วเด็กเสียชีวิตภายในบ้านเช่า ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่าปลูกติดกันหลายห้องบริเวณภายในห้องที่ 3 พบเจ้าหน้าที่กู้ชีพและเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันปฐมพยาบาล นางสาวทิมและคานา อายุ 27 ปี สัญชาติพม่าที่นั่งจมกองเลือดอยู่ภายในห้องน้ำ โดยบริเวณหว่างขาพบเด็กทารถเพศชายอายุครรภ์ประมาณ 7-8 เดือน นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นห้องน้ำโดยยังมีสายรกติดกับสะดืออยู่ เจ้าหน้าที่จึงรีบช่วยกันปั๊มหัวใจก่อนที่จะตัดสายรกออกแต่ไม่ทันการณ์เด็กเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงนำตัวนางสาว ทิมและคานา รีบนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงเนื่องจากเสียเลือดมาก

นายชุนลีเซ็ง อายุ 32 ปี สามี กล่าวว่า ตนและภรรยาทำงานอยู่ในโรงงานผลิตร่มแห่งหนึ่ง โดยเช่าห้องพักอาศัยด้วยกันมานานหลายปีและมีลูกกับภรรยามาแล้ว 2 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ภรรยามีลูกมาแล้วอีก 1 คน ก่อนเกิดเหตุในวันนี้ตนและภรรยาออกไปทำงานปกติ กระทั่งภรรยาเลิกงานเมื่อช่วงเวลา 17.00 น. ก่อนจะเข้าห้องพักส่วนตัวเลิกงานมาช่วงประมาณ 20.00 น. หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จได้ปิดห้องเข้ามุ้งนอนตามปกติ กระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าภรรยาบ่นว่าปวดท้องก่อนที่จะลุกเดินเข้าห้องน้ำ สักครู่ใหญ่ได้ยินเสียงร้องของเด็กและเสียงภรรยาเรียกให้ช่วย จึงรีบเดินไปเปิดประตูห้องน้ำดูพบว่าภรรยาคลอดลูกออกมาแล้ว ก่อนที่จะรีบวิ่งไปเรียกเจ้าของบ้านเช่าช่วยโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลให้รีบมาช่วยเหลือ ยังแปลกใจว่าทำไมภรรยาท้องแต่ไม่ยอมบอก แต่ภรรยาเองก็ยังไม่ทราบว่าตั้งท้องได้อย่างไรทั้งที่ทานยาคุมกำเนิดตลอด

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่า แม่ของเด็กน่าจะคลอดก่อนกำหนด เมื่อเดินเข้าไปทำธุระในห้องน้ำทำให้เด็กไหลออกมาก่อนที่จะหล่นร่างกระแทกพื้นเสียชีวิตดังกล่าว จึงได้บันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้นพร้อมมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์ก่อนจะเดินทางไปสอบปากคำแม่ของเด็กรายนี้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป