สังคม

เตือนภัยมิจฉาชีพ อ้างเป็นทีมงานนักการเมืองแจกข้าวสาร หลอกสแกนบัตร ปชช.เปิดบัญชีม้า

โดย nicharee_m

6 ก.ค. 2565

146 views

เล่นเอาพนักงานสอบสวนเหนื่อยทุกวัน แอบอ้างเป็นคนของพรรคการเมือง เอาข้าวสารไปแจก หลอกเอาบัตรประชาชนไปสแกนเปิดบัญชีม้า จนมีผู้ตกเป็นเหยื่อ กว่า 100 ราย ต้องเข้าแจ้งความ โดยที่ตำรวจจับได้แล้ว 1 ราย และออกหมายจับอีก 3 ราย



เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ผู้เสียหายกว่า 20 ราย ได้เดินทางมาแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน หลังถูกนางสาวศิริวรรณ สมาน หรือนิด อายุ 50 ปี และ นางสาวสุนิสา วงศ์แก้ว อายุ 31 ปี ได้นำข้าวสารมาแจก อ้างว่าเป็นของนายพรชัย วงศ์ล้อมนิล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรคไทยสร้างไทย และขอบัตรประชาชนไป พร้อมทำการสแกนหน้า พอหลังจากนั้นไม่นาน มาทราบว่าถูกแอบไปเปิดบัญชีม้า มีเงินหมุนเวียนกว่า 6 หมื่นบาท ที่ส่วนใหญ่เป็นคนในตำบลหนองปรือ ตำบลหัวถนน ตำบลสระสี่เหลี่ยม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ที่ในตอนนี้ มีผู้เสียหายมากกว่า 100 คน ทยอยมาแจ้งความ



สอบถามนางสาวอารียา สมินเย อายุ 27 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ได้มีทางนางสาวนิด ที่รู้จักกันดี เนื่องจากเป็นทีมงานของ ส.จ.ไก่ ซึ่งปัจจุบันได้เปิดตัวว่าจะลงสมัคร ส.ส.จังหวัดชลบุรี ในเขตอำเภอพนัสนิคม ในปีหน้า ได้นำข้าวสารมาแจกถึงที่ แต่มีเงื่อนไข ต้องสแกนหน้าบัตรประชาชน และขอบัตรประชาชนไปก่อน แล้วจะนำมาคืนให้ภายหลัง โดยชาวบ้านเห็นว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี เลยอยากได้ข้าวไว้หุงหากิน จึงรับไว้ และได้ทราบข่าวว่ามีคนถูกนำไปเปิดบัญชีธนาคารกสิกร จึงไปเช็คกับธนาคารดู จึงรู้ว่ามีชื่อนำไปเปิดบัญชีเพิ่ม อีกบัญชีมีเงินหมุนเวียนหลายหมื่นบาท ทำให้ต้องมาแจ้งความป้องกันตัวเองไว้

ด้านทางนายพรชัย หรือ ส.จ.ไก่ ได้กล่าว่า ตนเองรู้จักกับทางนางสาวนิด ดี เนื่องจากเคยมาช่วยหาสมาชิกพรรค แต่มาระยะหลัง ไม่ได้มาช่วยงานตนแล้ว ทำให้ไม่เจอกัน ซึ่งตนไม่เคยทราบว่าก่อน ที่นำชื่อของตนไปแจกข้าวสาร แลกกับบัตรประชาชน ไปเปิดบัญชีม้า ที่เอาไปเงินหมุนเวียนเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ ซึ่งตนยืนยันไม่เคยแจกข้าวสาร ส่วนใหญ่ที่แจกจะเป็นแมสก์ กับยาแก้โควิด ตนเองพร้อมชาวบ้าน จึงเข้าแจ้งความ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามจับตัวมาดำเนินคดี ส่วนทาง



พ.ต.อ.ถาวร นาใจเย็น ผู้กำกับการ สภ.พนัสนิคม เปิดเผยว่า หลังทราบเรื่อง ได้สืบสวนสอบสวน และสามารถจับผู้ต้องได้แล้วจำนวน 1 ราย คือ นางพิ้ง ขอสงวนชื่อและนามสกุล อายุ 50 ปี ที่เป็นเครือข่ายการหลอกลวงในครั้งนี้ และยังมีการออกหมายจับ อีกจำนวน 3 ราย มาดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันนำบัตร หรือ ใบรับ หรือ ใบแทนบัตรประชาชนของผู้อื่นไปใช้แสดงว่าตนเป็นเจ้าของบัตร และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบโดยมิชอบ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ที่คาดว่าจะสามารถจับตัวทั้งหมดได้เร็วๆ นี้

ฝากเตือนประชาชน ให้รักษาข้อมูลส่วนตัว โดยเฉพาะบัตรประชาชน ที่เป็นการแสดงตัวตนของตัวเอง อย่าให้ใครอย่างเด็ดขาด เพราะสามารถนำไปใช้ทำทางธุรกรรมได้ ซึ่งจะทำให้เราเองเกิดความเดือดร้อนและเสียหายได้



คุณอาจสนใจ

Related News