พิษน้ำมันกระทบหนัก! 'กรีนบัส' ลดเที่ยววิ่งทั่วภาคเหนือ

บริษัทชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ หรือ กรีนบัส หนึ่งในผู้ประกอบการขนส่งที่เตรียมลดเที่ยววิ่งตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม ตามมติสมาคมกิจการรถโดยสารประจำทางไทย เพื่อประคับประคองธุรกิจจากผลกระทบน้ำพันแพง เผยกระแสเงินสดเหลือใช้อีก 1 สัปดาห์ เตรียมแผนฟื้นฟูกิจการ-พนักงานตกงานกว่า 300 คน หากรัฐไม่ยื่นมือช่วยเหลือ

นายสมชาย ทองคำคูณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ เปิดเผยว่า บริษัทได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้บริษัทมีรถวิ่งวันละ 300 กว่าคัน ต่อมาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 ต้องลดลงเหลือวันละประมาณ 100 คัน จนมาถึงวิกฤตน้ำมันแพงทำให้ต้องลดจำนวนรถลงอีก เหลือวันละประมาณ 60 คัน

และหลังจากวันที่ 1 กรกฏาคม ทางบริษัทจะลดจำนวนรถลงอีกเหลือประมาณ 30 คัน โดยจะลดจำนวนเที่ยววิ่งในแต่ละวัน 80 เปอร์เซ็นต์ คงเหลือเส้นทางหลักที่ยังพอมีผู้โดยสาร เช่น เชียงใหม่ - เชียงราย , เชียงใหม่ - พะเยา , เชียงใหม่ – น่าน แต่จะลดเที่ยววิ่งต่อวันลงจาก 8 เที่ยว เหลือ 2 เที่ยว ส่วนเส้นทางอื่น ๆ ที่ไม่ทำรายได้จะหยุดให้บริการชั่วคราว

บริษัทเมล์เขียวต้องประสบชะตากรรมเดียวกับผู้ประกอบการขนส่งทั่วทั้งประเทศ โดยก่อนหน้านี้หากเทียบจากราคาน้ำมันดีเซลที่ลิตรละ 27 บาท จะมีต้นทุนต่อรายได้อยู่ที่ 27 เปอร์เซ็นต์ แต่วันนี้น้ำมันปรับขึ้นเป็นลิตรละ 35 บาท ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นเป็น 36 เปอร์เซ็นต์ สวนทางกับรายได้ที่ลดลง เนื่องจากยังคงค่าโดยสารที่ติดจากราคาน้ำมันที่ 27 บาทต่อลิตร

ขณะนี้ทางบริษัทเหลือกระแสเงินสดในมือที่สามารถใช้จ่ายได้อีกเพียง 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะเริ่มเข้าสู่ภาวะติดลบ หากรัฐบาลไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทางบริษัทคงต้องปิดกิจการ โดยขณะนี้ได้เตรียมแผนขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางไว้แล้ว

นายสมชาย บอกว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจทำให้ในปี 2562 บริษัทต้องกู้ยืมเงินมาพยุงกิจการกว่า 80 ล้านบาท และ กู้เพิ่มอีกจำนวนหนึ่งในปี 2563 - 2564 แต่เมื่อสถานการณ์ปัจจุบันไม่เอื้อให้กิจการเดินต่อไปได้ก็จำเป็นต้องยุติการให้บริการ ซึ่งยอมรับว่าจะต้องกระทบกับพนักงานที่มีอยู่ประมาณ 300 คน รวมทั้งผู้โดยสารที่จำเป็นต้องใช้บริการขนส่งสาธารณะ จึงขอให้รัฐบาลเร่งหามาตรการช่วยเหลือ

สำหรับบริษัทชัยพัฒนาขนส่งเชียงใหม่ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2507 ก่อนจะเพิ่มเส้นทางครอบคลุมทุกจังหวัดของภาคเหนือตอนบน รวมทั้งเส้นทางข้ามภาค เชียงใหม่ - ภูเก็ต และ เชียงใหม่ - บึงกาฬ รวมทั้งให้บริการขนส่งสินค้าในปัจจุบัน