สังคม
บุกทลายแหล่งผลิตปืนเถื่อนฝั่งธนฯ หลังเปิดเพจขายออนไลน์ พบของกลางจำนวนมาก
โดย sujira_s
28 ก.ย. 2564
143 views
ตำรวจ 191 บุกทลายแหล่งผลิตปืนเถื่อนย่านฝั่งธนฯ พบของกลางเป็นจำนวนมาก หลังประกาศขายในโลกออนไลน์มานาน มีคนติดตามมากกว่า 5 หมื่นคน
ตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือตำรวจ 191 นำกำลังบุกเข้าทลายแหล่งผลิตอาวุธปืนเถื่อนรายใหญ่ย่านฝั่งธนบุรี โดยจุดที่นำกำลังบุกเข้าไปตรวจค้น คือ บ้านหลังหนึ่งในซอยพุทธมณฑลสาย 2 ซอย 7 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร จากการตรวจค้นภายในบ้านพบกระสุนปืน 141 นัด, ลำกล้องปืน 60 อัน, ชุดเข็มแทงชนวน 24 เข็ม, โม่ปืน 47 อัน, อาวุธปืนที่ผลิตเสร็จแล้ว 18 กระบอก, ปลอกใส่โม่ปืน 35 อัน, ซองปืน, อุปกรณ์ช่าง, ถังทดสอบยิง, และอุปกรณ์อื่นๆเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้ยึดสมุดบัญชีธนาคาร 1 เล่ม
พร้อมจับกุมผู้ต้องหาคือ นายอาทิตย์ อายุ 24 ปี และนางสาวมะลิวัลย์ อายุ 20 ปี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันผลิตอาวุธปืนไทยประดิษฐ์เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีอาวุธปืนอุปกรณ์ส่วนควบและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, และร่วมกันมีอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้การจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากตำรวจ 191 ได้ออกตรวจตราป้องกันและปราบปรามแหล่งผลิตอาวุธปืนผิดกฎหมายในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล จนสืบทราบว่า มีกลุ่มผู้ต้องหาลักลอบผลิตอาวุธปืนลำกล้องปืนและชิ้นส่วนประกอบอาวุธปืนที่ผิดกฎหมายจำนวนมาก โดยใช้โลกออนไลน์เป็นแหล่งประกาศขายสินค้าให้แก่ลูกค้า จึงสืบสวนติดตามกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ 3 ลงพื้นที่ไปตรวจสอบจนทราบแน่ชัดว่า เป็นแหล่งผลิตอาวุธปืนจริงจึงรวบรวมพยานหลักฐานและไปขอให้ศาลออกหมายค้น จนเมื่อศาลออกหมายค้นให้แล้ว จึงนำกำลังไปตรวจค้นดังกล่าวก็พบของกลางและผู้ต้องหาดังกล่าว
เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่า ได้เปิดเพจโดยใช้ชื่อว่า “อาเฉา สำรอง” เพื่อแสดงสินค้าอาวุธปืนและชิ้นส่วนต่างๆจนมียอดผู้ติดตามมากกว่า 50,000 คน และมีผู้เข้าชมมากกว่า 2 ล้านครั้ง โดยจะจำหน่ายอาวุธปืนและชิ้นส่วนให้กับประชาชนทั่วไปที่สนใจ และจะออกแบบดัดแปลงให้ตามคำสั่งซื้อก่อนจะจัดส่งให้โดยจะให้ลูกค้าโอนเงินกลับมาที่บัญชีของนางสาวมะลิวัลย์ ทั้งนี้ตำรวจ 191 เตรียมขยายผลติดตามปืน และผู้ซื้อจากผู้ต้องหาทุกคนมาดำเนินคดีต่อไป