ใจทำด้วยอะไร! โจรแสบใช้แบงค์ปลอม หลอกซื้อของยายตาบอด ถึง 2 พันบาท

ยายวัย 68 ปี พิการทางสายตา ตาขวาบอดสนิท ตาซ้ายเลือนลาง ถูกลูกค้าชายหญิง นำแบงค์พันปลอม มาหลอกซื้อของวันเดียวถึง 2 รอบ 2 พันบาท สูญเงินจริงที่ทอนไปกว่า 1,500 บาท และคนในหมู่บ้านเดียวกันยังโดนแบงค์พันปลอมอีก 1 ใบ คาดว่า แบงค์พันปลอมน่าจะระบาด และอาจจะนำมาหลอกใช้ตามร้านขายของชำอื่นๆ วอนตำรวจเร่งตรวจสอบ และติดตามจับกุม

วันที่ 4 ก.ย. 64 จ.สงขลา พบว่า มีการนำแบงค์พันปลอม มาหลอกซื้อสินค้า ในพื้นที่ หมู่ 5 บ้านดอนขี้เหล็ก ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา และผู้โชคร้าย เป็นเจ้าของร้านขายของชำ ในหมู่บ้านบ้านดอนขี้เหล็ก ชื่อว่า น.ส.เป๊าะ สายสะอิด อายุ 68 ปี ซึ่งพิการทางสายตา

โดยตาขวาบอดสนิท ส่วนตาซ้ายมองเห็นเลือนลาง และอยู่ตัวคนเดียวไม่มีครอบครัว อาศัยเปิดร้านขายของชำเล็กๆ หารายได้ไปวันๆ โดยมีญาติพี่น้องคอยช่วยซื้อของมาให้ขาย แต่ปรากฏว่า เมื่อราว 2 วันก่อน มีชายหญิงคู่หนึ่ง นำแบงค์พันปลอมมาหลอกซื้อของวันเดียวถึง 2 ครั้ง ซ้อน

โดยช่วงเช้ามาซื้อของเป็นเงิน 200 กว่าบาท คุณยายเป๊าะ จึงทอนให้ไป 700 กว่าบาท และครั้งที่ 2 ก็มาอีกในช่วงบ่าย ซื้อของในราคาใกล้เคียงกัน และยายเป๊าะ ก็ทอนเงินไป 700 กว่าบาท เหมือนเดิม ซึ่งตอนรับเงิน คุณยายเป๊าะ ก็ใช้วิธีนำแบงค์พันมาดูใกล้ๆตา ก็เห็นรูปในหลวงรัชกาลที่ 10 ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่า เป็นของจริง มารู้อีกทีตอนเช้า ที่เพื่อนบ้านมาขอแลกเงิน และบอกว่าเป็นแบงค์พันปลอมทั้ง 2 ใบ

คุณยายเป๊าะ บอกว่า ตอนที่ชายหญิงคู่นี้มาซื้อของก็ถามว่า เป็นลูกเต้าเหล่าใคร ทั้ง 2 คน ก็บอกว่า เป็นคนในหมู่บ้าน โดยฝ่ายชายอ้างว่า เพิ่งพ้นโทษออกจากคุกมา ก็เลยไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเป็นลูกหลาน คนในหมู่บ้าน ไม่คิดว่าจะมาหลอกกันแบบนี้ อีกทั้งไม่ได้เอะใจว่าเป็นแบงค์พันปลอม เพราะตาก็มองไม่ค่อยชัด

โดยหลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองสงขลา และตำรวจได้ลงพื้นที่มาติดตามหาตัวชายหญิงคู่นี้ ปรากฏว่า ไม่อยู่แล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการติดตามหาตัว

คุณยายเป๊าะ บอกว่า แม้จะนำแบงค์พันปลอมมาหลอกซื้อของถึง 2 พัน ก็ไม่ได้คิดโกรธและให้อภัย แต่ขออย่าไปทำกับใครอีก โดยในพื้นที่บ้านดอนขี้เหล็ก นอกจากจะมีการนำแบงค์พันปลอมมาหลอกซื้อสินค้ากับ คุณยายเป๊าะ หญิงสูงอายุพิการทางสายตาคนนี้ถึง 2 พันบาทแล้ว

ยังมีคนในหมู่บ้านเดียวกันอีก 1 คน ที่มีการนำแบงค์พันปลอมมาหลอกซื้อสินค้าด้วย ชาวบ้านจึงต้องการเรียกร้องให้ตำรวจเร่งตรวจสอบที่มาที่ไปของแบงค์พันปลอม เพราะเชื่อว่า น่าจะมีการนำไปใช้กับร้านค้าอื่นๆอีก และเตือนให้เจ้าของร้านค้า โดยเฉพาะร้านขายของชำในหมู่บ้านตรวจสอบแบงค์พันให้ดี