สังคม
สธ.เผยวัคซีนสูตรไขว้ ปลอดภัย มีภูมิคุ้มกันขึ้นสูง ฉีดแล้ว 1.5 ล้านโดส
โดย sujira_s
2 ก.ย. 2564
63 views
กระทรวงสาธารณสุข เผยฉีดวัคซีนสูตรไขว้ซิโนแวค-แอสตราเซเนกา สู้สายพันธุ์เดลตา ยืนยันภูมิขึ้นสูง มีความปลอดภัย ขณะนี้ฉีดไปแล้วกว่า 1.5 ล้านโดส บริหารจัดการทรัพยากรที่มีจำกัดสูงสุด บูรณาการทำงาน ยึดตามหลักวิชาการ เหตุที่ซื้อซิโนแวคเพิ่มเพื่อเป็นเข็ม 1 ทำให้ฉีดเข็ม 2 ได้รวดเร็วขึ้นและครอบคลุมผู้ที่ได้รับวัคซีนอีกเท่าตัว
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และนายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ชี้แจงกรณีข้อสงสัยความปลอดภัยของการฉีดวัคซีนสูตรไขว้
โดยนายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมกับคณะกรรมการวิชาการ บริหารจัดการควบคุมป้องกันโรค วัคซีน และการรักษา ซึ่งข้อมูลที่มีการนำมาใช้ประกอบการอภิปราย ส่วนใหญ่เป็นเทคนิคทางวิชาการ อาจสร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อน จึงได้ขอชี้แจง ใน 3 ประเด็น คือการระบาดของโรคโควิด19 ประสิทธิผลของวัคซีนต่อเชื้อกลายพันธุ์ และแนวทางการรักษาผู้ติดเชื้อ
นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวว่า ในการบริหารจัดการเรื่องวัคซีน ดำเนินการภายใต้คณะกรรมการวิชาการจากทุกสาขา ได้คิดค้น พัฒนา ปรับปรุง ทั้งการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ดูแลบำบัดรักษาและให้วัคซีนครบวงจร ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงปัจจุบัน ฉีดไปแล้ว 32 ล้านโดส เป็นไปตามแผนการจัดการวัคซีน ซึ่งเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอย่างจำกัดและคุ้มค่าที่สุดภายใต้หลักฐานทางวิชาการที่ได้มีการวิจัย ทดลอง สังเกต นำมาประยุกต์ใช้ โดยวัคซีนสูตรไขว้ซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า จะเป็นวัคซีนพื้นฐานที่ฉีดให้กับประชาชน ยืนยันว่ามีความปลอดภัย ระยะต่อไปเมื่อมีวัคซีนเข้ามามากขึ้น ทั้งแอสตราเซเนกา ไฟเซอร์ โมเดอร์นา ซิโนฟาร์ม จะหาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพวัคซีน ให้ทันกับสถานการณ์สู้กับการกลายพันธุ์ของไวรัสเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า วัคซีนทุกชนิดในโลกตั้งต้นมาจากสายพันธุ์อู่ฮั่น แต่ไวรัสมีการกลายพันธุ์ตลอดเวลาเป็นสายพันธุ์จี อัลฟา เบตา ปัจจุบันในไทยพบเป็นสายพันธุ์เดลตา กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับคณะผู้เชี่ยวชาญวิจัยติดตามภูมิคุ้มกันจากวัคซีน นำมาสู่การบริหารจัดการฉีดสูตรไขว้ซิโนแวคเป็นเข็มแรกตามด้วย แอสตราเซเนก้า พบมีประสิทธิผลเทียบเท่าฉีดแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม แต่สามารถฉีดได้รวดเร็วและครอบคลุม 2 เท่า
รวมทั้งแผนฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ในผู้ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มโดยใช้วัคซีนต่างชนิดกัน จำนวน 3 ล้านคน โดยงานวิจัยดังกล่าว กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลอยู่ระหว่างการเสนอตีพิมพ์ ซึ่งกระบวนการใช้เวลานาน ในสถานการณ์เร่งด่วนและฉุกเฉินไม่สามารถรอตีพิมพ์ก่อนแล้วมาบริหารจัดการได้
“วัคซีนสูตรไขว้ฉีดแล้วกว่า 1.5 ล้านคน มีความปลอดภัย ขออย่าพูดอะไรที่ทำให้ประชาชนสับสน ขณะนี้ไม่ได้ฉีดซิโนแวค 2 เข็มแล้ว แต่เป็นสูตรไขว้” นายแพทย์ศุภกิจกล่าว
ด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ความรู้ใหม่ทั้งตัวเชื้อและวัคซีนเปลี่ยนตลอดเวลา จึงต้องปรับให้ทันสถานการณ์เพื่อประโยชน์ของคนไทย สายพันธุ์เดลตาทำให้ประสิทธิภาพวัคซีนลดลงทุกตัว แต่ยังป้องกันป่วยรุนแรงและเสียชีวิต จึงต้องเพิ่มประสิทธิผลของวัคซีนที่มีจำกัด
ดังนั้น คณะผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านโรคติดเชื้อ ด้านวัคซีนและด้านระบาดวิทยาเป็นต้น ได้ร่วมกันสรุปหาข้อวินิจฉัยโดยอ้างอิงหลักฐาน ทางวิชาการที่ประเทศไทยมีและทั่วโลก ทั้งจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไบโอเทค คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ข้อมูลตรงกันว่าสูตรไขว้มีประโยชน์ โดยผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติถือว่ามีความรอบคอบรอบด้าน
นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่ารัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ให้ความสำคัญกับการรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ร่วมกับคณะแพทย์และคณะผู้เชี่ยวชาญจากภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมกันกำหนดแนวทางการรักษามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอก 3 มีการกำหนดและปรับแนวทางการรักษาให้สอดคล้องกับสถานการณ์บนพื้นฐานข้อมูลทางวิชาการและผ่านการพิจารณาของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (ศปก.สธ.) เพื่อประกาศใช้ ทั่วประเทศ
ล่าสุดได้ปรับแนวทางให้ผู้ป่วยโควิด-19 ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์เร็วขึ้นในผู้ติดเชื้อที่เริ่มมีอาการเล็กน้อยและกลุ่มเสี่ยงที่ ยังไม่มีอาการ ทำให้ฟื้นตัวได้เร็วและได้นำไปใช้ใน HI/CI โดยกระจายยาไปยังสถานพยาบาลทั่วประเทศ และยังให้ยาฟ้าทะลายโจรในผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ และไม่มีโรคประจำตัวอีกด้วย