ต่างชาติกว่า 300 คน เหยื่อค้ามนุษย์ในเมียนมา ขอรัฐเร่งช่วย หลังถูกหลอกว่าจะได้มาทำงานในไทย

มีชาวต่างชาติไม่ต่ำกว่า 14 ชาติ จำนวนกว่า 327 คน ได้ร้องเรียนผ่านเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ให้ช่วยเหลือนำตัวออกจากแหล่งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมาและลาว ตรงข้ามชายแดนไทย



เอกอัครราชทูตเคนยา ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่าในจำนวนนั้นมีเหยื่อการค้ามนุษย์ชาวเคนยาอีก 80 คน ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือด้วย ขณะที่ สส.พรรคเป็นธรรม ที่ประสานความช่วยเหลือกับหลายภาคส่วน เสนอรัฐบาลยกระดับการจัดการอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ามนุษย์ข้ามพรมแดนไทย ที่กำลังเป็นภัยคุกคามของโลก



นี่คือคำร้องขอจากญาติเหยื่อค้ามนุษย์จากประเทศเคนยา ปากีสถาน และบังคลาเทศ ถึงรัฐาลไทย เพื่อให้ช่วยเหลือครอบครัว ซึ่งถูกหลอกหลวงว่าจะได้มาทำงานที่ประเทศไทย แต่เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ กลับพาเดินทางไปสถานที่ห่างไกลที่มารู้ในภายหลังว่าเป็นประเทศเมียนมา ที่ตั้งอยู่ชายแดนไทย และถูกบังคับให้ทำงานเป็นสแกรมเมอร์และคอลเซ็นเตอร์โดยถูกยึดพาสปอร์ตและโทรศัพท์มือถือ ถูกทำร้ายร่างกายบังคับให้ทำงาน และข่มขู่ หากต้องการเดินทางกลับต้องจ่ายเงินค่าไถ่ตัว



ซึ่งชาวต่างชาติ ไม่ต่ำกว่า 14 ชาติ จำนวนกว่า 327 คน ได้ร้องขอความช่วยเหลือผ่านเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จำนวนเพิ่มมากขึ้นในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งบางส่วนช่วยเหลืออกมาได้แล้ว แต่บางส่วนยังช่วยไม่ได้ ซึ่งนอกจากที่ชเวก๊กโก่ และเคเคปาร์ค เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมาแล้ว ตรงข้ามอำเภอแม่สอด จ.ตากของไทยที่มีมากก่อนหน้านี้ ยังมีในพื้นที่บ้านช่องแคบ ในฝั่งเมียนมา และพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำของ สปป.ลาว ด้วย ซึ่งญาติของผู้เสียหายต่างออกมาเรียกร้องขอความช่วยเหลือผ่านทุกช่องทาง



ข่าว 3 มิติได้สอบถามจากเอกอัครราชทูตเคนยา ประจำประเทศไทย ซึ่งตั้งแต่ปี 2565 มีชาวเคนยาถูกหลอกไปทำงานในฝั่งเมียนมา ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ได้รับการช่วยเหลือมาแล้ว 150 คน ยังเหลือที่รอการช่วยเหลือในเมียนมา 20 คน และในสามเหลี่ยมทองคำ สปป.ลาว 80 คน ที่ผ่านมาสถานทูตเคนยา ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานของไทยทั้งกระทรวงการต่างประเทศ ตำรวจ ทหาร และภาคประชาสังคมที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชน ช่วยเหลือเหยื่อเหล่านี้



แต่การทำงานยากลำบาก เพราะเป็นพื้นที่ในเมียนมา ต้องประสานขอความช่วยเหลือหลายช่องทาง นอกจากการแจ้งเตือนประชาชนชาวเคนยาไม่ให้หลงเชื่อว่ามาทำงานแอดมินในประเทศไทยแล้วได้เงินเดือนเยอะ แต่หลอกไปทำงานคอลเซ็นต์เตอร์ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน สถานทูตเคนยา อยากเห็นความร่วมมือกับประเทศต่างๆ ทั้งไทย จีน เมียนมา ลาว กัมพูชา ร่วมกันแก้ปัญหาอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ ที่กำลังเป็นอัตรายกับประชาชนทั่วโลก



นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเป็นธรรม เปิดเผยด้วยว่า ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือประสานไปยังหลายหน่วยงานให้ช่วยเหลือชาวต่างชาติ ไม่ต่ำกว่า 300 คน เช่น ชาวลาว 19 คน อุซเบกิสถาน 1 คน คาซักสถาน 1 คน เอธิโอเปีย 10 คน บังคลาเทศ 13 คน โมรอคโก 1 คน เคนยา 23 คน ฟิลิปปินส์ 65 คน ไต้หวัน 73 คน อินโดนีเซีย 73 คน และญี่ปุ่น 6 คน จากขบวนการคอลเซ็นเตอร์ จึงไม่อยากให้มีการจัดการกันในระดับหน่วยงานชายแดน แต่รัฐบาลไทยต้องจริงจังกับปัญหานี้อย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะเหยื่อเหล่านี้ถูกหลอกให้มายังประเทศไทย แต่เมื่อไปส่งที่ อ.แม่สอด จ.ตาก กลับหายไป จึงไม่น่าจะยากหากจะตรวจสอบกันจริงจัง



นายกัณวีร์ เปิดเผยว่าที่ผ่านมาเมื่อชาวต่างชาติขอความช่วยเหลือผ่านสถานทูตในไทย ก็ต้องนำตัวข้ามแดนมาฝั่งไทย ต้องขอบคุณหน่วยงานไทยทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่นำเข้าสู่กลไกส่งต่อระดับชาติ หรือ nrm การคัดกรองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ทางการไทยจึงน่าจะมีข้อมูลที่มากพอในการจัดการปัญหานี้ทั้งระบบ