สังคม

'ป้าติ๋ม' ชวดรับมรดก 100 ล้าน หลัง ตร.ซุ่มสืบ 7 เดือน พบ 2 คนไทยเป็นนอมินีบริษัท 'แหม่มฝรั่งเศส'

โดย panisa_p

26 พ.ย. 2567

12 views

กรณีป้าติ๋ม แม่บ้านที่เคยมีข่าวได้มรดก 100 ล้าน จากนายจ้างชาวฝรั่งเศส ที่เกาะสมุย สุราษฏร์ธานี ซึ่งหลายรนก็สงสัยว่าเบื้องลึกเเละข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรกันเเน่ ล่าสุด ก็มีความคืบหน้าจากตำรวจ ที่เข้าไปสืบสวนเรื่องนี้นานถึง 7 เดือน ล่าสุด เรียก 2 คนไทยที่เป็นนอมินีของหญิงชาวฝรั่งเศส ที่จดทะเบียนบริษัทนิติบุคคลถือครองที่ดินและทำธุรกิจซื้อขายวิลล่าบนเกาะสมุย มาให้ข้อมูลเเละรับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐาน จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต เเละถือครองที่ดินโดยมิชอบ



พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ภ.จว.สุราษฎร์ธานี มอบหมายให้ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ร่มไทร รองผู้กำกับ สภ.กาญจนดิษฐ์ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย ให้ดำเนินคดีกับบริษัทเอกชน 2 แห่ง คือบริษัท จี.วี.เอ็น.อี.จำกัด และบริษัทแม็กซิเคทจำกัด ในฐานะนิติบุคคล, รวมถึงนางแคทเทอร์รีน โจรี่ โรแล็นด์ เจอร์แมน เดลาโคท อายุ 59 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งเสียชีวิตแล้ว



ในข้อหาร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษตามที่กำหนดไว้ในบัญชีหนึ่ง (การค้าที่ดิน ตามบัญชีหนึ่ง(9)), เป็นคนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยฯ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจ โดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้



นอกจากนี้ยังดำเนินคดีกับ นายทองใส คติสุข อายุ 50 ปี และ นางรัชประภา โซเรดะ อายุ 36 ปี อีกด้วย โดย พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ได้มอบสำนวนการสืบสวนและพยานหลักฐาน ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว



ขณะที่ พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เผยว่า หลังเกิดเหตุ นางแคทเทอร์รีน อายุ 59 ปี นักธุรกิจวิลล่าให้เช่าบนเกาะสมุยใช้ปืนจ่อขมับปลิดชีพตัวเองริมสระน้ำในวิลล่าหรู ก่อนเสียชีวิตได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้แม่บ้านคนสนิท มูลค่าร่วม 100 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา



ซึ่งมีประเด็นที่หลายคนยังเคลือบเเคลงสงสัย โดยเฉพาะประเด็นทรัพย์สินเกี่ยวกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างว่า ชาวต่างชาติสามารถถือครองและโอนทรัพย์สินให้กับผู้อื่นได้หรือไม่ ทางผู้บังคับบัญชาจึงมอบหมายให้ ศปชก.ภ.จว. สุราษฎร์ธานี เข้าสืบสวนสอบสวนมาอย่างต่อเนื่อง จนพบพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่า การดำเนินธุรกิจในลักษณะนิติบุคคลที่มีบุคคลต่างด้าวเป็นกรรมการ เข้าข่ายความผิดลักษณะของตัวแทนอำพราง ซึ่งตำรวจได้ใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานจนมั่นใจว่าเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องได้ จึงเป็นที่มาของการเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด



การสืบสวนยังพบว่า มีสำนักงานกฎหมายเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องและให้การช่วยเหลือในการจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคลของชาวต่างด้าว ซึ่งประเด็นของสำนักงานกฎหมาย จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในเร็วๆ นี้



คดีนี้มีจุดเริ่มต้น เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ นางแคทเทอร์รีน อายุ 59 ปี ชาวฝรั่งเศสนักธุรกิจวิลล่าให้เช่าบนเกาะสมุย ได้ยิงตัวเองเสียชีวิตที่ริมสระน้ำในวิลล่าหรู ซึ่งตำรวจได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด การตรวจสอบพบว่าก่อนเสียชีวิต ผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้นางณัฐวลัย หรือ ป้าติ๋ม ซึ่งเป็นเเม่บ้านคนสนิท ประกอบด้วย วิลลาหรูพร้อมที่ดินที่เกิดเหตุ , ที่ดินเปล่า 2 แปลง รวมถึงทรัพย์สิน เครื่องประดับ และสดในธนาคารอีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าที่ป้าติ๋มได้รับราว 100 ล้านบาท



-หลังปรากฎเป็นข่าว นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย ได้ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเกี่ยวกับความถูกต้องในการถือครองทรัพย์สิน รวมถึงการดำเนินกิจการธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคล เพื่อถือครองทรัพย์สินโดยเฉพาะที่ดินในประเทศไทย รวมถึงให้มีการตรวจสอบการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลเพื่อครอบครองวิลล่าของชาวต่างชาติ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและรักษาผลประโยชน์ของประเทศ



และต่อมา พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค ซึ่งขณะนั้นเป็น ผอ.รมน.ภาค 4 ได้สั่งการให้ชุดแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าตรวจสืบสวนหาข่าวและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนนำไปสู่การตรวจสอบการถือครองที่ดินของรัฐ และการประกอบธุรกิจวิลล่า

คุณอาจสนใจ

Related News