ตำรวจเชื่อ 'หมอบุญ' วางแผนหลบหนีอยู่แล้ว เร่งหมายแดงประสาน ตร.สากลจับกุม

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เชื่อ หมอบุญได้เตรียมวางแผนหลบหนีไว้อยู่แล้ว หลังก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายให้ลงทุนโปรเจคธุรกิจทางการแพทย์กว่า 7,500 ล้านบาท ตอนนี้เร่งทำหมายแดง ประสานตำรวจสากลล่าตัว หลังพบหนีไปประเทศจีน



ตำรวจ สน.ห้วยขวาง นำตัว นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของนายแพทย์ บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี และนางสาวนลิน วนาสิน อายุ 51 ปี ลูกสาวของนายแพทย์บุญ ไปขออำนาจศาลอาญารัชดาฝากขัง หลังทั้งคู่เข้ามอบตัวกับตำรวจเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังตกเป็นผู้ต้องหา ร่วมกับหมอบุญ และพวกรวมทั้งหมด 9 คน



โดยมีคดีร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายเพื่อร่วมระดมทุนและกู้เงิน ในโปรเจคธุรกิจทางการแพทย์ 5 โครงการ มีผู้เสียหายมากกว่า 200 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 7,500 ล้านบาท ซึ่งพฤติกรรมการก่อเหตุของผู้ต้องหากลุ่มนี้ คือนายแพทย์บุญ จะให้โบรกเกอร์ หาผู้เสียหาย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ มาร่วมระดมทุน และขอกู้เงิน



จากนั้นนายแพทย์บุญ จะจ่ายเช็คให้กับผู้เสียหายเพื่อเป็นหลักประกัน โดยผู้ที่ลงนามสลักหลังเช็ค คือนางจารุวรรณ แต่สุดท้ายปรากฎว่าเมื่อผู้เสียหาย เอาเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคารกลับเป็นเช็คเด้ง ขณะที่ทนายความของ



ขณะที่ก่อนหน้านี้ทนายความของนางจารุวรรณ เปิดเผยว่าลูกความได้หย่าร้างกับหมอบุญนานแล้ว และลูกความก็ถูกปลอมลายมือชื่อในเช็คให้กับผู้เสียหาย ซึ่งลูกความได้ฟ้องดำเนินคดีกับหมอบุญในเรื่องนี้แล้ว โดยคดีอยู่ในชั้นของศาลแพ่ง



พลตำรวจโทอิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการติดตามตัวนายแพทย์บุญ ซึ่งหลบหนีออกจากไทยตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนไปที่ฮ่องกง และออกจากฮ่องกง ไปประเทศจีน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่านายแพทย์บุญหลบซ่อนตัวอยู่ที่ใด แต่เชื่อว่ามีการเตรียมการล่วงหน้า โดยระหว่างนี้ กองการต่างประเทศ อยู่ระหว่างจัดทำหมายแดง และประสานตำรวจสากล เพื่อให้ติดตามจับกุมผู้ต้องหา



พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่าจากนี้หากมีหลักฐานถึงใครก็จะออกหมายจับเพิ่ม รวมถึงต้องตรวจสอบในประเด็นที่ภรรยานายแพทย์บุญอ้างว่าถูกปลอมลายเซนต์ด้วย เบื้องต้นจากการตรวจสอบทั้ง 5 โครงการ ที่มีการบอกว่าจะเอาเงินมาลงทุน พบว่า เป็นโครงการที่ไม่มีอยู่จริง จึงเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน และการโฆษณาชวนเชื่อ



ส่วนกรณีของนายแพทย์บุญจะเข้าข่าย ความผิด พ.ร.ก.กู้ยืมเงินหรือไม่ ทางพันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับการประสานจาก ตำรวจมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่หากพบว่าเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.กู้ยืมเงิน จะเป็นหลักเกณฑ์เดิมเหมือนกับคดีดิไอคอนกรุ๊ป ที่มีผู้เสียหายมากกว่า 300 ราย หรือมีมูลค่าความเสียหายเกิน 100 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นคดีพิเศษ



ล่าสุด ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) ชี้แจงกรณีศาลออกหมายจับ นายแพทย์บุญ วนาสิน ในข้อหาฉ้อโกง และฟอกเงิน เป็นการดำเนินการโดยนายแพทย์บุญ แต่เพียงผู้เดียว บริษัทฯ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด รวมถึงนางจารุวรรณ วนาสิน ภรรยาของนายแพทย์บุญ และนางสาวนลิน วนาสิน บุตรสาวของนายแพทย์บุญ โดยนางจารุวรรณ และนางสาวนลิน ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการของบริษัทฯ ซึ่งทางบริษัทไม่ได้รับการติดต่อเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงใด ๆ จากบุคคลทั้งสอง และยังไม่ได้แสดงเจตจำนงลาออกจากตำแหน่งกรรมการของบริษัทฯ



แต่จากข้อเท็จจริงและตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย การที่ทั้งสองถูกแจ้งข้อกล่าวหา ยังไม่ได้ส่งผลให้ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทฯ เนื่องจากข้อกล่าวหาดังกล่าวยังอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาทางกฎหมาย และยังไม่มีคำตัดสินถึงที่สุด