สังคม

ปทส. เร่งขยายผลโรงงานรีไซเคิลเถื่อน จ.ฉะเชิงเทรา ยันสาวต้นตอ กวาดล้างทั้งเครือข่าย

โดย panwilai_c

9 พ.ย. 2567

191 views

การตรวจค้นโรงงานรีไซเคิลที่ประกอบกิจการโดยไม่มีใบอนุญาต เข้าข่ายเป็นโรงงานเถื่อน ที่จังหวัดฉะเชิงเทราเมื่อวานนี้ เป็นภาพสะท้อนชัดเจนของกลุ่มทุน ที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานประกอบกิจการซึ่งนอกจากไม่ทำตามระเบียบแล้ว ยังจะทิ้งกากอุตสาหกรรมที่เหลือจากการรีไซเคิลนั้นไว้ในพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ชุมชนได้รับผลกระทบตามมาด้วย



ชายชาวอินเดียคนนี้ ถูกดำเนินคดีไปแล้ว เพราะเขาทำงานในโรงงานนี้ ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดประกอบกิจการได้ ที่จริง โรงงานนี้ เป็นหนึ่งเดียวในบรรดา 10 โรงที่ตั้งอยู่ที่นี่ แล้วได้ยื่นขอขออนุญาตตั้งโรงงานจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งโรงงานยังอยู่ระหว่างประกาศรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ถึงวันที่ 14 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ หลังจากนั้นจึงจะพิจารณาตามขอคำ แต่หลักฐานที่ปรากฏคือ โรงงานเดินเครื่องจักรหลอมเศษพลาสติกนี้มานานแล้ว



เม็ดพลาสติกที่เกิดจากการหลอมในถุงเหล่านี้คือเป็นอย่างฐานอย่างดี เขาบอกว่าจากวัตถุดิบ มันกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะส่งใส่คอนเทนเนอร์ไปอินเดีย



ข้อเท็จจริงดังกล่าว เป็นตัวอย่างเดียวของพฤติกรรมธุรกิจกลุ่มนี้ที่แทบไม่ต่างจากทัวร์ศูนย์เหรียญ รวมถึงโรงงานนี้ที่เป็นของนายทุนชาวจีน แต่จ้างชายชาวอินเดีย คนนี้มาควบ คุมงาน  วัตถุดิบที่ใช้นำเข้ามาจากต่างประเทศ ใช้แรงงานเป็นแรงงานข้าวชาติ เมื่อเป็นผลิตภัณฑ์ก็ส่งกลับประเทศ แต่กากอุตสาหกรรมที่เหลืออยู่ เช่นกรณีนี้คือเศษผง พลาสติก คือสิ่งที่จะกลายเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมของที่นี่



ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการ ปทส. ระบุว่า คนกลุ่มนี้เป็นเครือข่ายเดียวกัน หรือรู้จักกัน เมื่อถูกดำเนินคดีแล้วก็มักจะย้ายไปที่อื่นๆ ซึ่งกรณีนี้ ตำรวจ ปทส.จะลงลึกลงไปถึงผู้เช่าที่ดินแต่ละแปลงเพื่อเอาผิดไปให้ถึงเจ้าของโรงงานเหล่านี้



หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีกระทรวงอุตสากรรม ยืนยันว่าผู้ประกอบการจะทำเช่นนี้ได้ต้องมีเครือข่ายแนนแน่น ซึ่งภาครัฐต้องประสานข้อมูลมากขึ้นด้วย โดยส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เร่ง exray สำรวจ โรงงานที่มีความเสี่ยง พร้อมคาดโทษหากพบว่ามีการปล่อยปละละเลย



สำหรับของกลางที่ถูกยึดอายัดไว้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักร วัตถุดิบ หรือผลิตภัณฑ์ กระทรวงอุตสาหกรรมระบุว่าจะประสานตำรวจท้องที่เฝ้าระวังการเคลื่อนย้าย



ซึ่งข่าว 3 มิติ ตั้งข้อสังเกตเช่นกันว่า หากภาครัฐ ไม่มีมาตรการรัดกุม เข้มงวดกับการเฝ้าระวังของกลาง ก็มีโอกาสสูงมากที่จะถูกลักลอบเคลื่อนย้ายออกจากที่นี่ เหมือนกรณีที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง และจะไม่ต่างจากภาวะงูกินหาง คือการตามยึด อายัดวัตถุดิบเดิม แต่เปลี่ยนสถานที่ตั้งเท่านั้น

คุณอาจสนใจ

Related News