สังคม

3 เครือข่ายภาคประชาชน ยื่น 20,000 รายชื่อ คัดค้านการเมืองแทรกแซงแบงก์ชาติ

โดย panisa_p

4 พ.ย. 2567

20 views

กรณีการสรรหาประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. คนใหม่ วันนี้คณะกรรมการคัดเลือกประธานบอร์ดเเบงก์ชาติ ก็ได้ตัดสินใจเลือนการคัดเลือกออกไปอีก จากเดิมที่ต้องเป็นวันนี้ไปเป็นวันที่ 11 พฤศจิกายน ท่ามกลางกระสสังคมที่มองว่าอาจมีการแทรกแซงจากฝั่งรัฐบาล



ฝ่ายประชาสัมพันธ์ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ส่งคำแถลงถึงสื่อมวลชน กรณีแจ้งเลื่อนการประชุมสรรหา ประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย โดย นางวิเรขา สันตะพันธุ์ เลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ประธานกรรมการคัดเลือกฯ ได้หารือกับกรรมการคัดเลือก และเห็นร่วมกันว่าต้องใช้เวลาในการพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้านครบถ้วน เพื่อให้การประชุมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จึงให้เลื่อนกำหนดการประชุมที่จะมีขึ้นในวันนี้ ออกไป เป็นวันที่ 11 พฤศจิกายนแทน



ซึ่งตามกำหนดเดิม วันนี้ เวลา 14.00 น. จะมีการคัดเลือกประธานคณะกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ แบงก์ชาติ โดย 3 รายชื่อที่เป็นแคนดิเดตชิงเก้าอี้ประธานบอร์ด ธปท. คือ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เสนอชื่อโดยกระทรวงการคลัง ส่วนอีก 2 ชื่อที่เสนอจาก ธปท.มี นายกุลิศ สมบัติศิริ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน และ นายสุรพล นิติไกรพจน์ นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกรรมการอิสระ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)



ขณะที่ด้านหน้าแบงก์ชาติ ก็มีปฏิกิริยาจากกลุ่มผู้ชุมนุมกองทัพธรรม เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. และศูนย์รวมประชาชนปกป้องกลุ่มสถาบัน หรือ ศปปส. ได้จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ คัดค้านการเมืองเข้าแทรกแซง พร้อมนำรายชื่อประชาชน 20,999 รายชื่อ ยื่นให้กับเลขานุการคณะกรรมการคัดเลือกฯ โดยตัวแทน 3 เครือข่าย กังวลว่า การคัดเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติ อาจจะมีการล็อกสเปคให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง



ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้ นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ แสดงความรับผิดชอบ ลาออกจากประธานคณะกรรมการคัดเลือกฯ เนื่องจากเคยถูกศาลฎีกาสั่งให้ร่วมชดใช้ความเสียหาย กรณีแก้สัมปทานให้ค่ายมือถือ ซึ่งมองว่านายสถิตย์ไม่มีความสง่างาม โดยในวันที่ 11 พฤศจิกายน จะเดินทางมาติดตามการประชุมอีกครั้ง



สำหรับกรณีที่กระแสสังคมมองว่าการที่กระทรวงการคลังเสนอชื่อนายกิตติรัตน์เข้าชิงตำแหน่งประธานบอร์ด ธปท. ทั้งที่มีความเกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมือง และพรรคเพื่อไทย ซึ่งอาจจะเป็นโอกาสให้เข้ามาล้วงเงินคงคลังได้ง่ายขึ้นนั้น นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน และไม่สามารถล้วงเงินคงคลังได้



ส่วนกรณีกระแสข่าวการเปลี่ยนรายชื่อจากนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นนายพงษ์ภานุ เศวตรุนทร์ อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายพิชัย ระบุว่า ส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียดเรื่องดังกล่าว ส่วนจะมีการเสนอรายชื่อใหม่จริงหรือไม่นั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ผู้ที่รับผิดชอบทั้งหมดจะต้องคุยกัน ซึ่งในเรื่องนี้เป็นอำนาจของกรรมการสรรหา และกระทรวงคลัง รวมถึง ธปท. จะพิจารณา โดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถเสนอรายชื่อใหม่ได้ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งคลังและ ธปท. เพื่อให้ทั้งหมดเดินหน้าไปตามกระบวนการ



ส่วนตัว นายพิชัย มองว่า ประธานบอร์ด ธปท. ไม่ได้มีอำนาจใดมากมาย เพราะเรื่องสำคัญจริงๆ จะไปอยู่ที่คณะกรรมการชุดย่อยๆ เกือบหมด พร้อมระบุ อะไรก็ตามที่ทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ทุกคนพอใจ เข้าอกเข้าใจ เป็นเรื่องดีที่สุด อยากให้ทุกฝ่ายคุยกัน ส่วนความล่าช้าของเรื่องนี้เชื่อว่าจะไม่มีผลต่อการบริการจัดการและการทำงานของ ธปท. เพราะว่ายังมีรักษาการอยู่

คุณอาจสนใจ

Related News