10 วันสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง! 'บียอนเซ' ขึ้นเวทีประกาศหนุน 'แฮร์ริส' ด้าน 'ทรัมป์' ยังใช้กลยุทธ์โจมตีคู่แข่ง

นับถอยหลังอีก 10 วัน ถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใกล้ช่วงโค้งสุดท้ายเข้าไปทุกขณะ โดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน และรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครตมุ่งหาเสียงกันที่รัฐเท็กซัสอย่างเข้มข้น ล่าสุด นักร้องสาว บียอนเซ ออกมาประกาศสนับสนุนแฮร์ริสอย่างเป็นทางการแล้ว



การหาเสียงที่เมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นรัฐอนุรักษ์นิยมและเป็นรัฐแรกที่บังคับใช้กฎหมายห้ามการทำแท้งเกือบทั้งหมด แฮร์ริสได้เน้นย้ำถึง เรื่องของกฎหมายการทำแท้ง โดยระบุว่า อันตรายที่ตามมา หากทรัมป์และพรรครีพับลิกัน ได้รับเลือก คือ สิทธิการทำแท้งทั่วประเทศ



การหาเสียงครั้งนี้ มีผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายห้ามทำแท้งในเท็กซัสและครอบครัวของพวกเขาร่วมเวทีด้วย ซึ่งพวกเขาบอกว่า "การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของเสรีภาพในการเจริญพันธุ์สำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป"



อย่างไรก็ตาม เท็กซัสไม่ได้สนับสนุนประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตมาตั้งแต่ปี 1976 และคาดว่า ทรัมป์จะได้รับ 40 คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งของรัฐอย่างแน่นอน



บนเวทีหาเสียง แฮร์ริสยังได้เปิดตัวนักร้องสาว บียอนเซ่ และ เคลลี โรว์แลนด์ เพื่อนร่วมวง Destiny’s Child ขึ้นเวทีหาเสียงร่วมกัน และบียอนเซ่ได้ประกาศสนับสนุนแฮร์ริส อย่างเป็นทางการ



บียอนเซ่ กล่าวบนเวทีว่า "ฉันไม่ได้มาที่นี่ในฐานะคนดัง หรือในฐานะนักการเมือง ฉันมาที่นี่ในฐานะแม่" "แม่ที่ใส่ใจอย่างลึกซึ้งต่อโลกที่ลูกๆ ของฉันและลูกๆ ของเราทุกคนอาศัยอยู่ โลกที่เรามีเสรีภาพในการควบคุมร่างกายของเรา โลกที่เราไม่ได้ถูกแบ่งแยก" "เราต้องออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง และเราต้องการคุณ"



ในช่วงท้าย บียอนเซ่ และ เคลลี โรว์แลนด์ ได้แนะนำแฮร์ริสว่า "สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ โปรดต้อนรับอย่างอบอุ่นให้กับประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐฯ รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส"



ขณะที่ทรัมป์ก็หาเสียงในเท็กซัสเช่นกัน โดยเขาแวะที่เมืองออสตินเพื่ออัดรายการพอดแคสต์ ซึ่งมีผู้ติดตามหลายสิบล้านคนในสื่อสังคมออนไลน์ โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย



ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า ทรัมป์สูญเสียคะแนนสนับสนุนจากผู้หญิง นับตั้งแต่แฮร์ริสกลายเป็นผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต แม้ว่าทั้งคู่จะมีคะแนนสูสีกันในรัฐสมรภูมิ



ในผลสำรวจของ Reuters/Ipsos ที่เผยแพร่เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แฮร์ริสนำทรัมป์ในกลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งหญิงโดยได้คะแนน 49% เทียบกับทรัมป์ 36% หรือมีคะแนนนำ 13 จุด เมื่อเทียบกับการสำรวจในเดือนกรกฎาคมที่เธอนำอยู่ 9 จุด



หลังจากนั้น ทรัมป์ได้จะเดินทางไปหาเสียงต่อที่รัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นรัฐสมรภูมิสำคัญ โดยเขาเดินทางช้ากว่ากำหนดหลายชั่วโมง ทรัมป์ได้กล่าวโจมตีแฮร์ริส กรณีที่อิสราเอลโจมตีฐานทัพอิหร่าน เมื่อวานนี้ ว่า ขณะที่เรากำลังทำสงครามกันอยู่ แต่เธอกลับออกไปปาร์ตี้สังสรรค์



ล่าสุด มีนักวิเคราะห์ข้อมูลของ CNN ออกมาวิเคราะห์ว่า มีโอกาสเป็นไปได้ที่ ทรัมป์ จะสร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการชนะคะแนนป็อปปูลาร์ โหวต (Popular Vote) ในการเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้



ขณะที่สหภาพยุโรป หรือ อียู เอกอัครราชทูตจาก 27 ประเทศในกลุ่มอียูได้จัดการประชุมเชิงกลยุทธ์กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรป เพื่อหารือถึงผลกระทบหากโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยนักการทูตอียู 12 คนเปิดเผย ว่า รู้สึกกังวลเกี่ยวกับการค้า แต่ส่วนใหญ่กังวลเรื่องยูเครน



ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า อียูถึงกับจัดตั้ง "หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินรับมือทรัมป์" เพื่อเตรียมความพร้อมรับผลกระทบจากการเลือกตั้ง โดยสหภาพยุโรปมีเป้าหมายตอบโต้ทางการค้าหากทรัมป์ชนะ



สำหรับ ผลสำรวจคะแนนนิยมทั่วประเทศ ที่จัดทำโดย ไฟว์เทอร์ตี้เอ้ก (538) และ เอบีซี นิวส์ คะแนนระหว่างแฮร์ริสและทรัมป์ มีความสูสีกันมาก ห่างกันเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ โดยแฮร์ริส นำ ทรัมป์ อยู่ที่ 48 เปอร์เซ็นต์ ต่อ 47 เปอร์เซ็นต์