สังคม

2 สัปดาห์สุดท้าย! 'แฮร์ริส-ทรัมป์' เร่งเครื่องหาเสียง ชิงเก้าอี้ปธน.สหรัฐฯ ผลโพลชี้คะแนนนิยมยังสูสี

โดย panwilai_c

22 ต.ค. 2567

31 views

รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 2 ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันเร่งเครื่องหาเสียงก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า



การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะถูกจัดขึ้นอย่างเป็นทางการในวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน ซึ่งตอนนี้ ผู้สมัครจาก 2 พรรคก็พยายามหาเสียงกันอย่างเต็ม โดยเฉพาะในรัฐสมรภูมิ 7 รัฐที่จะเป็นตัวตัดสินผลการเลือกตั้ง ทั้ง แอริโซนา, จอร์เจีย, มิชิแกน, เนวาดา, นอร์ท แคโรไลนา, เพนซิลเวเนีย, และวิสคอนซิน



โดยเมื่อวานนี้ รองประธานาธิบดีแฮร์ริสจากพรรคเดโมแครตได้ขึ้นเวทีหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนีย หนึ่งในรัฐสมรภูมิ ร่วมกับนางลิซ ชีนีย์ (Liz Cheney) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เคยอยู่ภายใต้สังกัดพรรครีพับลิกัน



แฮร์ริสพยายามโน้มน้าวใจกลุ่มสตรีสายอนุรักษ์นิยมในรัฐสมรภูมิ 3 รัฐที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคมิดเวสต์ด้วยการบอกว่าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์เป็นภัยคุกคามต่อสิทธิการทำแท้ง, ความมั่นคงของชาติ และประชาธิปไตย



รองประธานาธิบดีแฮร์ริสยังพูดโจมตีทรัมป์เรื่องความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งด้วย โดยบอกว่าทรัมป์เป็นพวก "ไม่มั่นคง" หรือ "ไม่สมประกอบ" และตั้งคำถามถึงอุปนิสัยส่วนตัวของเขา นอกจากนี้ เธอยังกล่าวว่าโดนัลด์ ทรัมป์เป็นคนไม่เอาจริงเอาจังในหลาย ๆ เรื่อง และผลกระทบที่ตามมาจากการเป็นประธานาธิบดีของเขานั้นร้ายแรงมาก



ส่วนทางทรัมป์ เมื่อวานนี้ ลงพื้นที่หาเสียงที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา อีกหนึ่งในรัฐสมรภูมิที่มีการแข่งขันสูงมาก และรัฐนี้ก็เคยได้รับความเสียหายอย่างหนักจากพายุเฮอร์ริเคนเฮลีน โดยทรัมป์ได้กล่าวปราศรัยด้วยการเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนในเขตภูเขาที่ถูกพายุเฮอร์ริเคนพัดถล่มออกไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบาก



ทรัมป์ยังวิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานจัดการเหตุฉุกเฉิน หรือ ฟีม่า (FEMA) และให้คำมั่นสัญญาว่าหากเขาชนะการเลือกตั้ง เขาจะสั่งตั้งหน่วยงานใหม่เข้ามาดูแลความพยายามในการฟื้นฟูความเสียหายจากเฮอร์ริเคนเฮลีนในรัฐนอร์ทแคโรไลนาเป็นพิเศษ



นอกจากนี้ ทรัมป์ยังพูดถึงเรื่องการความพยายามในการลอบสังหารเขาด้วย โดยบอกว่าที่เขารอดชีวิตมาได้ เพราะได้รับการช่วยเหลือจาก "พลังเหนือธรรมชาติ" และเขาก็คิดว่าพระเจ้าพยายามช่วยเขาไว้เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง นั่นคือการทำให้สหรัฐอเมริกายิ่งใหญ่กว่าที่เคยมีมา



ล่าสุด มีโพลล์สำรวจความคิดเห็นของชาวอเมริกันที่มีสิทธิเลือกตั้งเผยให้เห็นว่าในช่วงสองสัปดาห์สุดท้ายของการหาเสียง รองประธานาธิบดีแฮร์ริส และอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ยังคงมีคะแนนนิยมสูสีกันใน 7 รัฐสมรภูมิ



โพลล์ดังกล่าวซึ่งถูกจัดทำขึ้นโดย วอชิงตัน โพสต์-ชาร์ สคูล (Washington Post-Schar School) และสำรวจผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 5,000 คน ในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนตุลาคม พบว่า 47% ของผู้ตอบแบบสำรวจ จะเลือกหรืออาจจะเลือกรองประธานาธิบดีแฮร์ริส เช่นเดียวกับทรัมป์ ที่มีตอบแบบสำรวจบอกว่า เลือกหรืออาจจะเลือกเขา 47%



ในขณะเดียวกัน ผลสำรวจใหม่ของจากสำนักข่าวเอพีและศูนย์วิจัยความคิดเห็นสาธารณะ (NORC) พบว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่ยังคงเสียงแตกว่าระหว่างแฮร์ริสกับทรัมป์ ใครสามารถจัดการกับปัญหาเศรษฐกิจได้ดีกว่ากัน?



อย่างไรก็ดี การสำรวจนี้ได้ตั้งคำถามที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมองว่าใครจัดการกับค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัย, การจ้างงานและการว่างงาน, ภาษีชนชั้นกลาง, ค่าอาหารและน้ำมัน, และภาษีศุลกากรได้ดีกว่ากัน ระหว่างแฮร์ริสกับทรัมป์



ผลปรากฏว่า 46% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งยกให้แฮร์ริสในเรื่องของภาษีชนชั้นกลางขณะที่ทรัมป์ได้รับ 35% นอกจากนี้ แฮร์ริสยังได้เปรียบเล็กน้อยในเรื่องการจัดการเรื่องค่าที่อยู่อาศัย ส่วนเรื่องราคาสินค้าในชีวิตประจำวัน เช่น อาหารและน้ำมัน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งคงเสียงแตก แต่ในเรื่องการจ้างงานและการว่างงาน ยังไม่มีผู้สมัครคนใดเหนือกว่ากัน อย่างไรก็ตาม ผู้มีสิทธิลงคะแนนมีแนวโน้มชอบทรัมป์มากกว่าแฮร์ริสเล็กน้อยในเรื่องภาษีศุลกากร

คุณอาจสนใจ

Related News