บุกค้นคลินิกในเครือ 'ดิไอคอนกรุ๊ป' จับ 'บอสเอก' แอบอ้างเป็นหมอรักษาคนไข้

ผู้บริหารที่สร้างความน่าเชื่อถืออีกคน คือนายฐานานนท์ หรือที่แอบอ้างว่าเป็นหมอเอก ซึ่งไม่ปรากฏตัวมาก่อน แต่วันนี้ถูกออกหมายจับ และถูกควบคุมตัวมาสอบสวนแล้ว



นายฐานานนท์ หรือมักใช้ชื่อแทนตัวเองว่าหมอเอก ซึ่งมีคลิปเป็นหลักฐาน ชัดเจนว่า มีการชักชวนให้ผู้เสียหายมาเปิดบิล เพื่อจะได้ผลตอบแทน จากการชักชวนคนมาเพิ่ม



ตั้งแต่เช้าวันนี้ ผู้ช่วย รมว.สาธารณะสุข รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ., และ อย. ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกเวชกรรม ดิไอคอน เวลเนส (The Icon Wellness) ของบริษัทในเครือ ดิไอคอน กรุ๊ป ตั้งอยู่ในซอยรามอินทรา 7 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพ เพื่อตรวจสอบข้อมูลว่ามีการประกอบกิจการทางการแพทย์ถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่



นอกจากนี้ยังพบว่าที่ตั้งแห่งนี้เป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ประกอบด้วยร้านต่างๆ อาทิ กาแฟ, ฟิตเนส, และสถานที่เก็บสินค้าผลิตภัณฑ์, สำนักงานใหญ่ และคลินิกเสริมความงาม แต่ละส่วนจะมีพื้นที่ขนาด 1-2 คูหา ยกเว้นในส่วนของสำนักงาน ที่มีขนาดใหญ่สุด 5 คูหา วิธีสังเกตว่าอาคารไหนเป็นของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปฯ ดูได้จากป้ายสัญลักษณ์ด้านหน้าที่ จะเป็นโลโก้บริษัทแบบเดียวกันทั้งหมด โดยที่หน้าตึก ทุกตึกจะมีการติดกล้องวงจรปิดทุกมุม การไปตรวจค้นเพื่อดำเนินการแจ้งความเอาผิดนาย ฐานานนท์ กรณีแอบอ้างเป็นแพทย์ตามข้อมูลที่ปรากฏตามสื่อสาธารณะ โดยทางกระทรวงสาธารณสุขจึงต้องการขยายผลต่อมาที่คลินิกที่เคยปรากฏภาพฐานานนท์ ทำการรักษาผู้หญิงไม่น้อยกว่า 5 ราย ซึ่งเป็นการกระทำของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม



จากการลงพื้นที่วันนี้คลินิกดังกล่าวปิดให้บริการ เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบด้านในได้ ขณะที่ยังมีสถานบริการอีกแห่ง เป็นร้านนวด ที่นายฐานานนท์มาเช่า แต่ไม่พบตัว



นายอาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า การตรวจสอบว่าเป็นแพทย์หรือไม่ แพทย์สภาสามารถเข้าไปตรวจสอบที่เว็บไซต์ได้ เพราะจะมีฐานข้อมูล ซึ่งหากไม่มีในฐานข้อมูลก็ไม่ใช่แพทย์ ตามที่ขึ้นทะเบียนกับแพทย์สภา ก็เป็นหมอเถื่อน ถ้าหากหลอกลวงก็จะมีความผิดตามกฎหมายวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งจะมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับถือเป็นโทษขึ้นรุนแรง และหากมีการประกอบวิชาชีพในสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต ก็จะมีโทษจำคุกอีก 5 ปี ถ้าแสดงตนเป็นผู้ดำเนินการก็จะมีโทษของผู้ดำเนินการอีก5ปี



ส่วนคลินิกที่เข้ามาตรวจสอบพบว่า เป็นคลินิกเวชกรรมให้การรักษาโรคทั่วไป เป็นคลินิกที่จดทะเบียนถูกต้อง แต่เนื่องด้วยคลินิกปิด จึงยังไม่วามารถเข้าไปตรวจสอบได้จะต้องมาใหม่เพื่อมาตรวจสอบว่า เครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ และบุคคลากรที่ให้บริการเป็นไปตามมาตรฐาน และมีความเหมาะสมที่เป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์หรือไม่ ผู้ประกอบกิจการที่จะขออนุญาตได้ จะต้องเป็นบุคคลมีอายุเกิน 20 ปี มีถิ่นอาศัยในประเทศไทย ก็สามารถเปิดคลินิกได้แล้ว



ซึ่งผู้ประกอบการผ่านการกลั่นกรองแล้วว่าถูกต้องตามกฎหมาย แต่แพทย์ผู้ดำเนินการจะต้องควบคุมกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพ ถ้าปล่อยปละให้คนอื่นที่ไม่ใช่แพทย์มาให้บริการก็จะมีโทษตามกฎหมาย จำคุก2ปี และต้องควบคุมไม่ให้ผู้มาใช้บริการกับคนที่ไม่ใช่หมอ



และเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นายฐานานนท์ ถูกตำรวจนำหมายศาลไปจับได้ที่บ้านพัก ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านมีนบุรี ซึ่งอยู่กับครอบครัว มีพี่ชาย น้องชาย และน้องสะใภ้ จากการตรวจค้นบ้านพัก พบเสื้อกราว2ชุด กระเป๋าแบรนด์เนมและสมุดบัญชีเงินฝาก โดยได้ยึดรถ ที่ใช้ประจำมา1 คัน ส่วนรถหรู ซ่อมไว้ที่อู่ 1 คัน ถูกยึดรถทั้ง2 คัน และเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ตำรวจได้ควบคุมตัว นายฐานานนท์มาสอบสวนที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยนายฐานานนท์ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ ซึ่งผู้ต้องหา แต่ละคน ถูกแยกไปสอบสวน โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากยังต้องรวบรวมพยานหลักฐานในหลายด้าน รวมทั้งเส้นเงิน จึงเกรงจะไปทำลายพยานหลักฐาน