จับครบ 18 บอส 'ดิไอคอน' ค้านประกันตัว ด้านดีเอสไอ เข้าอายัดทรัพย์-ที่ดินของ 'บอสพอล' สอบที่มาเงิน

คืบหน้า คดีดิไอคอนกรุ๊ป ล่าสุด พนักงานสอบสวน นำข้อมูลพยาน-หลักฐาน ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้บริหารของ"ดิไอคอนกรุ๊ป"เเล้วจำนวน 18 หมาย ในจำนวนนี้มี "บอสพอล" เเละ"บอสดารา"ทั้ง 3 คนรวมอยู่ด้วย ซึ่งขณะนี้มีหลายคนถูกจับ เเละควบคุมตัว มาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเเล้ว ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ช่วงเย็นที่ผ่านมา เข้าตรวจสอบเเละอายัดที่ดินของบริษัทฯราว 63 ไร่ ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท



ผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ถูกออกหมายจับในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน" และ "พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ" สำหรับรายชื่อทั้ง 18 คน ประกอบด้วย กลุ่มผู้บริหาร เเละดาราที่อ้างว่าเป็นเเค่ผู้รับจ้างและพรีเซนเตอร์ ได้แก่



1.นายวรัตน์พล หรือ บอสพอล

2.นางสาวปัญจรัศม์ หรือ บอสปัน

3.นายฐานานนท์ หรือ บอสหมอเอก

4.นางสาวนัฐปสรณ์ หรือ บอสสวย

5.นางสาวญาสิกัญจน์ หรือ บอสโซดา

6.นายนันท์ธรัฐ หรือ บอสโอม

7.นายธวิณทร์ภัส หรือ บอสวิน

8.นางสาวกนกธร หรือ บอสแม่หญิง

9.นายหัสยานนท์ หรือ บอสป๊อป

10.นายจิระวัฒน์ หรือ บอสแล็ป

11.นางวิไลลักษณ์ณ หรือ บอสจอย

12.นายธนะโรจน์ หรือ บอสอ๊อฟ

13.นางสาวพีชญา หรือ บอสมิน

14.นายยุรนันท์ หรือ บอสแซม

15.นายกลด หรือ บอสปีเตอร์

16.นางสาวเสาวภา หรือ บอสอูมมี่

17.นายเชษฐ์ณภัฎ หรือ บอสทอมมี่



และผู้ต้องหาตามหมายจับคนที่ 18.นายกันต์ กันตถาวร หรือ บอสกันต์



ซึ่งล่าสุด มีรายงานว่าบริษัทต้นสังกัด คือ ไทยบรอดคาสติ้ง จำกัด ซึ่งอยู่ในเครือบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ออกหนังสือเเจ้งยุติสัญญาการเป็นพิธีกร เเละศิลปินในสังกัดของ"นายกันต์ กันตถาวร"เเล้ว



ผู้สื่อข่าวที่เกาะติดความคืบหน้า อยู่ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รายงานว่า ตั้งเเต่ช่วงค่ำมาจนถึงตอนนี้ มีผู้ต้องหาถูกจับเเละควบคุมตัวมาที่ บก.ปคบ.เกือบครบเเล้ว ในจำนวนนี้มี นายวรัตน์พล หรือบอสพอล นายฐานานนท์ หรือ บอสหมอเอก เเละบอสดาราทั้ง 3 คนรวมอยู่ด้วย



ผู้ต้องหาคนดังที่เข้ามาล่าสุด ก็คือ บอสมิน พีชญา วัฒนามนตรี ขณะที่ "นายกันต์ กันตถาวร" ซึ่งติดต่อมอบตัวผ่านผู้จัดการส่วนตัว เดินทางเข้ามาถึงบก.ปคบ.พร้อมทนายความส่วนตัว เมื่อเวลา 19.28 น. ระหว่างเดินเข้ามา เขาไม่ได้ตอบคำถามหรือให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน



ส่วน"บอสเเซม ยุรนันนท์" เจ้าหน้าที่คุมตัวมาถึงกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเมื่อ 18.10น. สวมหมวกแก๊บและหน้ากากอนามัย ปิดบังใบหน้า



ก่อนหน้านี้ ตำรวจกระจายกำลังนำหมายศาลเข้าจับกุมผู้-ตรวจค้นผู้ต้องหา และพาไปลงบันทึกประจำวันในท้องที่จับกุมตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ จากนั้นก็ทยอยพามาที่บก.ปคบ. พร้อมคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน 


นอกจากนี้ ตำรวจยังตามยึด-อายัดรถยนต์หรูบางส่วน โดยนำมาจอดไว้ที่หน้าอาคาร "กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง"



ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ นอกจากรถยนต์ และเงินที่ปปง.สั่งอายัดตั้งเเต่เมื่อวาน ล่าสุดช่วงเย็นที่ผ่านมา พันตำรวจตรียุทธนา เเพรดำ รักษาราชการเเทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้าตรวจสอบเเละอายัดที่ดินราว 60 ไร่ ในต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี



พันตำรวจตรียุทธนา เปิดเผยว่า จากการร่วมสืบสวนกับ ตำรวจบก.ปคบ.พบว่า ที่ดินแห่งนี้มี 3 แปลง เนื้อที่ราว 63 ไร่ นายพอลซื้อไว้ในนามนิติบุคคล เพื่อใช้สำหรับขยายธุรกิจ ก่อสร้างหอประชุม บ้านผู้บริหาร และอาคารศูนย์การเรียนรู้ออนไลน์ ภายใต้ชื่อ "the icon city" จึงตรวจอายัดไว้ เพื่อไม่ให้ทรัพย์สินรายการนี้ถูกถ่ายโอน จากนี้จะประสาน ปงง.ดำเนินการต่อ ดีเอสไอ พบว่า นายพอล ซื้อที่ดินผืนนี้เมื่อปี 2564 จำนวน 2 แปลง แปลงแรกมีเนื้อที่ 30 ไร่ แปลงที่ 2 เนื้อที่ 4 ไร่ จากนั้นในปี 2565 ก็ซื้อเพิ่มอีก 1 แปลง มีเนื้อที่กว่า 29 ไร่ เบื้องต้นพบเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน และฉ้อโกงประชาชน ตามบัญชีแนบท้ายคดีพิเศษ



พันตำรวจตรียุทธนา ระบุเพิ่มเติมว่า บทบาทของดีเอสไอในตอนนี้ คือ ร่วมสืบสวนสอบสวนในคดี"ดิไอคอนกรุ๊ป" ถ้าได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ก็จะมอบให้กับพนักงานสอบสวนสอบ บก.ปคบ.



ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการ"ป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด" หรือ กรรมาธิการ ป.ป.ง. ของสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ มีการหารือเกี่ยวกับกรณี"ดิไอคอนกรุ๊ป"



ภายหลังการประชุม นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.จ.เลย พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการฯ แถลงว่า คณะกรรมาธิการจะติดตามประเด็นการฉ้อโกงประชาชน เพราะคดีนี้ประชาชน ได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยในสัปดาห์หน้าจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ทั้งปปง. / ตำรวจสอบสวนกลาง / ผู้เสียหาย ศิลปินดารา รวมทั้งผู้บริหารของ"ดิไอคอน" พร้อมให้คำมั่นว่า ประชาชนจะได้รับความเป็นธรรม และ ยืนยันว่า จะไม่มีการมาเจรจาหรือมาเคลียร์ใด ๆ กับคณะกรรมาธิการทั้งสิ้น

อีกด้านกรณีมีเทวดาเรียกรับผลประโยชน์จาก"ดิไอคอนกรุ๊ป" วันนี้ "นายษิทรา หรือทนายตั้ม" พร้อมด้วย"นายเอกภพ" จากเพจสายไหมต้องรอด ได้พาพยานปากสำคัญ เข้าพบ"รักษาราชการเเทนอธิบกรมสอบสวนคดีพิเศษ" โดยอ้างว่าพยานรายนี้ มีข้อมูลที่โยงไปถึงเจ้าหน้าที่ระดับบริหารของดีเอสไอ คอยเคลียร์เส้นทางให้"ดิไอคอน"



ช่วงสายวันนี้ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พร้อมนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาพยานสำคัญที่อ้างว่า รู้เห็นการจ่ายสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่ DSI ระดับสูง มาเข้าพบ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการเเทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ข้อมูลลับ



โดยทนายษิทรา บอกว่า มีข้อมูลคนสำคัญอีก 1 คน อักษรย่อ "ธ" บุคคลคนนี้เป็นเหมือนเกจิอาจารย์ของบอสพอล



ส่วนนายเอกภพ เปิดเผยว่า ช่วงที่เทวดาเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทดิไอคอน คือช่วงปี 2563 เทวดาได้มีการฝากฝัง"บุคคลคนหนึ่ง"ให้เข้ามาอยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบหน่วยงานที่เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่โดยตรง



นายเอกภพ บอกอีกว่า บุคคลในคลิปเสียงเป็นเพียงแค่ลูกกรอกของเทวดา ไม่ใช่เทวดาตัวจริง เเละถ้ามีการเปิดเผยตัวจริงของเทวดาออกมา หลายคนน่าจะตกใจ



จากนั้นในช่วงบ่าย ทนายษิทรา เดินทางไปที่พรรคพลังประชารัฐ เพื่อยื่นหนังสือถึง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ เพื่อให้ตรวจสอบคลิปเสียง กรณีมีบุคคลเรียกรับเงินเดือนละ 100,000 บาทจากบอสพอล รวมถึงกรณีคลิปเสียงที่พูดถึงการโยกย้ายคนเข้ามาตำเเหน่งในสคบ. โดยตั้งข้อสังเกตเเละคำถามว่า บุคคลที่คุยกับบอสพอลในคลิปเสียง ใช่ "นาย ส." สมาชิกพรรคพลังประชารัฐหรือไม่



ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีฯกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะ รองนายกฯ ที่กำกับดูแลสคบ. ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ 8 ราย ตามรายชื่อที่ปรากฏในเอกสาร



โดยคณะกรรมการชุดนี้ มีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเชิญผู้บริหาร พนักงานเจ้าหน้าที่ในสคบ.หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง มาให้ถ้อยคำหรือให้ข้อเท็จจริง และมีอำนาจเรียกเอกสารใด ๆ จากสคบ.หรือหน่วยงานใด ๆ เเละให้รายงานผล และข้อเสนอแนะต่อนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ภายใน 30 วัน