ปคบ.ค้น เครือข่าย 'ดิไอคอนกรุ๊ป' หาหลักฐานเพิ่มเอาผิดผู้บริหาร หลังผู้เสียหายเข้าร้องเฉียด 500 ราย

คืบหน้าคดีดิ ไอคอนกรุ๊ป วันนี้ตำรวจสอบสวนกลาง ได้เข้าตรวจค้น บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป 9 จุด เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของบริษัท ว่าจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน หลอกให้ลงทุนหรือไม่ โดยขณะนี้มีผู้เสียหายมาแจ้งความแล้ว 488 คน มีความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 178 ล้านบาท



วันนี้ มีผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ทั้งหมด 235 คน ทำให้ยอดรวมผู้เสียหายที่มาแจ้งความตลอด3 วัน ทั้งหมด 488 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 178 ล้านบาท



นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม เป็นต้นมา พนักงานสอบสวนพบหลักฐานที่เป็นพยานบุคคล ซึ่งกำลังตามหาพยานวัตถุที่เป็นเอกสาร ที่มีความเชื่อมโยงแต่ละเครือข่ายของบริษัท ดิ ไอคอนกรุ๊ป ซึ่งในวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นทั้งหมด 9 จุด เพื่อตรวจสอบงบการเงิน และสินค้าในสต๊อคว่า มีอัตราส่วนหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ 400 เท่าในปี 2566 จริงหรือไม่ หากมีปริมาณสินค้าคงเหลือมาก แต่มีรายได้ถึง 4000 ล้านบาท จึงต้องหาหลักฐานว่ารายได้มาจากทางใด รวมทั้งตรวจยึดเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์มาตรวจสอบข้อมูลด้วย



พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบส่วนกลาง เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีนี้ว่า ผู้บริหารที่ถูกกล่าวหา จากเจ้าทุกข์คือ นายวรัตน์พลหรือ นายพอล ที่มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ขณะนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบหลักฐานว่า เป็นไปตามข้อกล่าวหาของผู้ร้องทุกข์หรือไม่



ส่วนบุคคลอื่นๆที่ทยอยเข้าพบพนักงานสอบสวนในตอนนี้ ยังไม่เข้าข่ายความผิดใดๆและยังไม่มีใคร ถูกกล่าวหา นอกจากนี้ทางพนักงานสอบสวนยังตรวจพบว่ามีบุคคลของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป บางรายจะมีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ รวมทั้ง ตรวจสอบประเด็นเลขบัตรประชาชนของ บอสพอล หรือ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล ผู้บริหาร ดิไอคอนกรุ๊ป ที่ขึ้นต้นด้วยเลข 5 ว่า เป็นบุคคลสองสัญชาติหรือไม่อยู่ระหว่างตรวจสอบกับกรมการปกครอง



ขณะที่ มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำคลิปเสียงที่รายการโหนกระแส เปิดกลางรายการเกี่ยวกับบริษัทขายตรงชื่อดัง ให้ตรวจสอบว่า มีบุคคลลึกลับอยู่เบื้องหลังดิ ไอคอนกรุ๊ป อีกหรือไม่



ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ตำรวจ ปคบ. ได้นำของกลางที่ได้จากการตรวจค้นโกดังเก็บสินค้าของบริษัท "ดิไอคอนกรุ๊ป" เข้ามาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีรายงานว่า หนึ่งในจุดที่เข้าตรวจค้น เป็นโกดังเก็บสินค้าของบริษัทในพื้นที่ตำบลคลอง 4 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี



พบว่าระหว่างเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในโกดังดังกล่าว มีพนักงานกำลังนั่งแพคสินค้าอยู่เพียงแค่ 2 คน พร้อมกับกองผลิตภัณฑ์จำนวนหนึ่ง ขัดแย้งกับคลิปคอนเทนต์โฆษณาชักชวนผู้ลงทุนที่มีการกล่าวอ้างว่าผลิตภัณฑ์ในเครือดิไอคอนมียอดจำหน่ายจำนวนมาก จนทำให้บริษัทมีรายได้มหาศาล ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ จากการตรวจสอบทรัพย์สิน เฉพาะในกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ที่อยู่ในการครอบครองของบริษัทดิไอคอน เบื้องต้นพบว่ามีมูลค่ารวมกว่า 700 ล้านบาท