สังคม
ค้น 13 จุดในกาญจนบุรี ทลายเหมืองบิตคอยน์เถื่อน หลังพบลักใช้ไฟหลวง เสียหายปีละกว่า 100 ล้าน
โดย panwilai_c
9 ต.ค. 2567
215 views
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นำหมายศาลปูพรมเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 13 จุดใน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี หลังตรวจพบขบวนการดัดแปลงมิเตอร์-ลักลอบดึงกระแสไฟฟ้าไปใช้ในเหมืองขุดบิตคอยน์เถื่อน ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้จากค่าไฟฟ้า คิดเป็นมูลค่าความเสียหายปีละไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท
เบื้องต้นจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นแอดมินดูแลระบบ ดำเนินคดีฐานลักทรัพย์และความผิดที่เกี่ยวข้อง พร้อมขยายผลและแจ้งเตือนไปถึงผู้กระทำผิดรายอื่นๆ ถ้าจับได้จะโดนโทษหนัก ทั้งแพ่งและอาญา
เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ภายใต้การนำของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ โฆษกดีเสไอ และร้อยตำรวจเอกเขมชาติ ประกายหงษ์มณี นำกำลังชุดปฏิบัติการพร้อมเจ้าหน้าที่ กองเทคโนโลยีและสารสนเทศ ปูพรมค้นเป้าหมาย 13 จุดในพื้นที่ อ.ท่าม่วง กาญจนบุรี
เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายกฤษดา รับเป็นเจ้าของและแอดมิน พยายามปิดระบบ ควบคุมผ่านหน้าจอคอมและมือถือ หลังถูกจับได้ เขามีอาการเครียดชัดเจน
จากการตรวจค้น พบการติดตั้ง Wifi ดัดแปลงมิเตอร์-ลักลอบดึงกระแสไฟฟ้าแรงต่ำเข้าไปในบ้าน อีกหนึ่งเส้นโยงตรงเข้าไปที่เหมืองขุดในห้องลับหลังบ้าน เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่า การดัดแปลงติดตั้งระบบต่าง ๆ กลุ่มคนที่จะทำแบบนี้ได้ ต้องเชี่ยวชาญและมีความรู้เฉพาะด้าน จึงเชื่อว่าน่าจะมีเครือข่ายหรือขบวนการ หรืออาจมีนายทุนอยู่เบื้องหลัง
เจ้าหน้าที่ตรวจค้นเป้าหมายอีก 12 จุด พบพฤติการณ์แบบเดียวกัน ส่วนใหญ่ลักลอบทำในอาคารที่พักอาศัยหรือบ้านเช่า พบหลักฐานประกอบการกระทำความผิด ทั้งระบบ-อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สายไฟ หม้อแปลง-มิเตอร์แบบดัดแปลง
ที่น่าสังเกตคือ แต่ละจุดจะทำช่องระบายอากาศ เช่นบ้านหลังนี้ เจ้าของบ้านบอกว่ามีคนมาขอเช่า และก็เพิ่งรู้ว่าหลังบ้านชั้น 2 ถูกผู้เช่าเจาะกำแพง-ดัดแปลงบ้านและมิเตอร์ และเธอยินยอมให้ตรวจค้น
ชั้นล่างพบว่าผู้เช่ารายนี้ ติดตั้งวงจรปิดไว้สอดส่องความเคลื่อนไหว และไม่ได้มีร่องรอยการอยู่อาศัย ขณะที่ด้านบนดัดแปลงทำเป็นเหมืองขุด มีช่องระบายลมร้อน และอุปกรณ์จำนวนมาก เมื่อตรวจดูบิลค่าไฟ ก็เหมือนกับทุกจุด คือบ้านใหญ่แอร์หลายตัว แต่เสียค่าไฟเดือนละร้อยกว่าบาท บางเดือนไม่เกิน 500
จากการตรวจค้นทั้ง 13 จุด ดีเอสไอ ตำรวจสภ.ท่าม่วง และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ร่วมกันตรวจยึดของกลาง ทั้งอุปกรณ์และเครื่องขุดสกุลเงินดิจิทัลจำนวน 300 เครื่อง คิดเป็นความเสียหายภาครัฐต่อปีไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท
ผู้ถูกกล่าวหา ถูกนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง ดำเนินคดีฐานลักทรัพย์และความผิดอื่น ๆ และจะตามตัวคนที่เหลือ ซึ่งเชื่อว่ายังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่พยายามหลบเลี่ยง ไม่เฉพาะกาญจนบุรี แต่ดีเอสไอจะขยายผลเข้าดำเนินการทั้งประเทศ
แท็กที่เกี่ยวข้อง ลักใช้ไฟหลวง ,เหมืองบิตคอยน์ ,แก๊งขุดบิตคอยน์ ,เหมืองบิตคอยน์เถื่อน