ภาคเอกชน ร่วมแก้ปัญหากากเคมีรั่วไหล เผย 3 ภารกิจ พัฒนาอุตสาหกรรมไทย-ปราบผู้กระทำผิด

กระทรวงอุตสาหกรรม ระดมภาคเอกชนที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรม มากกว่า 50 ราย ร่วมโครงการแก้ปัญหากากสารเคมีที่สร้างความเดือดร้อนในหลายพื้นที่ ภายใต้ชื่อโครงการอุตสาหกรรมรวมใจ บรรเทาปัญหาสารเคมีรั่วไหล ขณะรัฐมนตรีว่าการอุตสาหกรรม เปิดเผยภารกิจเร่งด่วน 3 ด้าน คือผลักดันอุตสาหกรรมใหม่ที่ทันสมัย ปกป้องอุตสาหกรรมของคนไทยให้เข้มแข็ง และปราบปรามผู้กระทำผิดให้เด็ดขาด



กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เชิญผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรม มากกว่า 50 ราย เข้าร่วมประชุม ที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมวันนี้ เพื่อแจ้งให้ทราบถึงสถานการณ์การลักลอบทิ้งกากสารเคมี ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมในหลายพื้นที่ เช่นที่จังหวัดระยอง พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี และเพชรบูรณ์เป็นต้น



ขณะเดียวกัน นายเอกนัฐ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ มอบใบประกาศเกียรติคุณ ให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมมากกว่า 50 ราย เช่นกัน เพื่อขอบคุณ ที่ได้ให้การสนับสนุนภาครัฐในการเข้าไปช่วยบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากการลักลอบทิ้งกากสารเคมี ซึ่งผู้ประกอบการที่เข้ารับมอบประกาศเกียรติคุณนี้ ที่ผ่านมาได้สนับสนุนกำลังแรงงานของบริษัท เครื่องมืออุปกรณ์ในการทำงานกับสารเคมี และเครื่องมือป้องกันตัวเองของเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปทำงานเป็นต้น



รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าภารกิจเร่งด่วนขณะนี้ มี 3 แนวทางคือส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ที่สร้างสรรค และสร้างรายได้ให้ประเทศ ปกป้องอุตสาหกรรมของคนไทยที่ได้รับผลกระทบ และมุ่งมั่นเอาผิดผู้ประกอบการที่ทิ้งสารพิษ และทำธุรกิจโดยไม่รับผิดชอบ



พร้อมระบว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กรมโรงงานฯ ถูกมองเป็นจำเลย เพราะโทษเอาผิดผู้ประกอบการน้อยทั้งโทษปรับและจำคุก ทำให้คนทำผิดไม่เกรงกลัว รวมถึงงบประมาณที่จะนำมาดำเนินการ จึงจะเดินหน้ายกเครื่องปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และตั้งกองทุนอุตสาหกรรมขึ้นมาให้ได้ เพื่อใช้เยียวยาหรือป้องกันเหตุได้ทัน



สำหรับปัญหากากสารเคมีที่กระจายกันอยู่ในหลายพื้นที่ นายเอกนัฎระบุว่าบางส่วนยังจำเป็นต้องขอ งบกลาง ซึ่งต้องเป็นการนำมาเพื่อระงับเหตุฉุกเฉิน จึงให้เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจและกำหนดทิศทางอย่างละเอียดว่าจุดใด ที่ต้องเข้าข่ายระเบียบดังกล่าว พร้อมกับย้ำว่า ปัญหากากพิษที่เกิดแล้วต้องได้รับการแก้ไข และปัญหาใหม่ต้องไม่เกิดขึ้น นอกจากนี้ ก็ไม่เห็นด้วยที่จะเพิ่มเงินค่าธรรมเนียมการขอใบอนุญาตประกอบกิจการอุตสาหกรรม เพราะต้องส่งเสริมอุตสาหกรรมให้เกิดใหม่ได้สะดวก แต่จะไปเน้นเพิ่มโทษผู้กระทำผิดให้หนักขึ้นกว่าเดิม