สังคม
นายกฯ ลงพื้นที่ติดตามน้ำท่วมเชียงราย ให้กำลังใจชาวบ้าน สทนช.ชี้ผ่านจุดวิกฤตแล้ว ห่วง เลย-หนองคาย
โดย panwilai_c
13 ก.ย. 2567
69 views
นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามปัญหาน้ำท่วม อำเภอแม่สาย และ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งมีการเปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า กู้พื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมสูง ซึ่งพื้นที่จังหวัดเชียงราย น่าจะคลี่คลายภายใน 1-2 วันนี้ แต่เป็นห่วงแม่น้ำโขง ซึ่งได้แจ้งเตือนภัยประชาชนในจังหวัดเลยและหนองคาย รับมือน้ำท่วม
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ด่านพรมแดนแม่สาย ซึ่งเปิดเป็นวันแรกหลังน้ำท่วมมาเป็นวันที่ 4 ซึ่งก่อนหน้านี้น้ำท่วมสะพาน แต่น้ำในแม่น้ำสายยังท่วมสูง และเชี่ยวแรง ทั้งฝั่งเมืองท่าขี้เหล็กของเมียนมา และฝั่งไทยที่มีหลายหมู่บ้านริมน้ำกก ยังไม่สามารถเข้าถึงได้
ซึ่งขณะที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ เฮลิคอปเตอร์ทหารไทย ได้บินส่งอาหารให้กับชาวเมียนมา ที่อยู่ริมแม่น้ำสาย ซึ่งทางการเมียนมาได้ประสานความช่วยเหลือมาขอให้ส่งอาหารเพราะไม่ได้ทานอาหารกัน 4 วันแล้ว
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม อำเภอแม่สาย ที่ได้รับรายงาน พบว่ายังมีจุดที่เข้าไม่ถึง เช่นบ้านเกาะทราย ไม้ลุงขน และเหมืองแดง มีประชาชนยังติดค้างไม่ได้อพยพประมาณ 300 คน และที่ยังไม่ได้ทานอาหาร ซึ่งทุกหน่วยงานรวมทั้งอาสาสมัครได้กระจายกำลังไปอพยพและส่งอาหาร ซึ่งนายกรัฐมนตรี ขอเร่งทำเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เพื่อรักษาชีวิตประชาชน มีทั้งเฮลิคอปเตอร์ส่งอาหาร และรถสะเทินน้ำสะเทินบกของกองทัพเรือ
รวมถึงกำลังทหาร ตำรวจ และหน่วยซีล และทีมเจ็ทสกี หน่วยกู้ภัย ที่นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกฝ่ายที่มาช่วยเหลือวันแรก และได้มาติดตามสถานการณ์แม่น้ำสาย ซึ่งยังมีขยะสิ่งกีดขวางจำนวนมาก จะมีการเร่งเคลียร์พื้นที่เพื่อให้น้ำระบายได้เร็วขึ้น
นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชกระแส ทรงห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยจากเหตุดังกล่าว และมีพระราชกระแสทรงชื่นชม และพระราชทานกำลังใจ แก่จิตอาสาจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐภาคเอกชน และภาคประชาชนซึ่งต่างเสียสละกำลังกาย กำลังปัญญา และกำลังทรัพย์ มาร่วมกันปฏิบัติการให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย
นายกรัฐมนตรี ยังได้เดินทางมายังวัดพรหมวิหาร อำเภอแม่สาย ซึ่งเปิดเป็นศูนย์พักพิงสำหรับผู้ประสบภัย เมื่อมาถึงนายกได้เข้าไปนั่งพูดคุยและสวมกอดผู้ประสบภัย ที่ร่ำไห้ด้วยความดีใจที่ได้เจอนายกรัฐมนตรี และขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้ทอดทิ้ง แและอยากให้นายกรัฐมนตรี บอกประชาชนที่ไม่ยอมออกจากบ้าน เพราะอันตราย รวมถึงอยากให้แก้ปัญหากรณีมีขโมยเพราะไม่ได้เฝ้าบ้าน
ซึ่งนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ นางสาวธีรารัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ช่วยดูแลความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึงยืนยันว่าจะต้องเร่งเยียวยาให้ได้เร็วที่สุด เพราะได้รับความเสียหายอย่างมาก รวมถึงฟื้นฟูความเสียหาย ที่ส่วนใหญ่ทั้งทรัพย์สินและบ้านพัง
นายกรัฐมนตรี ยังได้ไปพูดคุยให้กำลังใจกับหญิงตั้งครรภ์ซึ่งเป็นชาวไทยใหญ่ และขอให้คลอดออกมาปลอดภัยทั้งแม่และลูก พร้อมทั้งให้กำลังใจในฐานะแม่ลูกสอง ก่อนที่จะไปร่วมทำอาหารในโรงครัวจิตอาสาตำรวจเชียงราย และโรงครัวพระราชทาน พร้อมทั้งขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ร่วมกันช่วยเหลือประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ทานอาหารกล่องของผู้ประสบภัยด้วย และได้ให้กำลังใจผู้ประสบภัยที่ยืนยันว่ารัฐบาลจะเร่งเยียวยาอย่างดีที่สุด
นายกรัฐมนตรี ยังได้ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัย ที่ศูนย์พักพิงมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย และรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์จาก นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช.
ซึ่งพบว่า สถานการณ์น้ำที่จังหวัดเชียงราย ผ่านจุดวิกฤติ และเริ่มดีขึ้นแล้ว โดยเฉพาะแม่น้ำกกที่น้ำลดลง คาดว่า 1 - 2 วัน สถานการณ์จะดีขึ้นหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม ส่วนจุดที่น่าเป็นห่วงคือแม่น้ำโขงที่จะไหลจากจังหวัดเชียงราย ลงสู่จังหวัดเลยและหนองคาย ที่ยังมีระดับน้ำสูงขึ้น จำเป็นต้องเสริมแนวตลิ่ง เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือน รวมถึงสถานการณ์ในแม่น้ำอิงที่ยังน่าเป็นห่วง เพราะคาดว่าในวันที่ 18 ก.ย.นี้ สถานการณ์จะค่อนข้างหนัก ซึ่งน้ำจะระยายลงแม่น้ำโขง ที่กำลังวิกฤตเช่นกัน ซึ่งทางไทยได้ประสานงานกับ สปป.ลาวและจีนอย่างต่อเนื่อง และต้องเตรียมพร้อมแจ้งเตือนไปยังประชาชนริมแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงคาน จ.เลย และ จ.หนองคาย ให้เตรียมรับมือน้ำท่วมด้วย
นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ทั้งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เยี่ยมผู้ประสบภัย และมอบถุงยังชีพ ให้ผู้ประสบภัยที่ศูย์อพยพ ซึ่งมีผู้สูงอายุ คนพิการ และเด็กจำนวนมาก เป็นผู้ประสบภัยในเขตเมือง ซึ่งน้ำเริ่มลดลงแล้ว แต่ยังเข้าบ้านไม่ได้ โดยที่ศูนยืพักพิงมีทีมแพทย์ และเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนมาช่วยดูแลและมอบของบริจาคด้วย
ขณะที่นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้อพยพในจังหวัดเชียงรายขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 1,200 คน โดยมี ผู้อพยพที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงนานที่สุด 4 วัน และยังเปิดศูนย์พักพิงไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย