ญาติผู้เสียชีวิตคดีตากใบ ผิดหวัง จำเลยไม่ปรากฏตัวต่อศาล จี้สละความคุ้มกัน 'พิศาล'

ศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับจำเลย 6 คน ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการระดับสูง ที่เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมที่หน้า สภ.ตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อปี 2547 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 85 คน



ส่วนพล.เอกพิศาล วัฒนวงศ์คีรี สส.พรรคเพื่อไทย ได้รับความคุ้มกันตามรัฐธรรมนูญ ศาลจะส่งหนังสือด่วนที่สุดไปถึงประธานสภาฯขออนุญาตจับกุม และขอให้สละความคุ้มกัน โดยนัดใหม่ 15 ตุลาคมนี้ ทางญาติ ผิดหวังที่จำเลยไม่มาปรากฏตัว และคาดหวังว่าจะมีการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก่อนคดีจะหมดอายุความในอีก 43 วัน



นายทรงพล พันธุ์วิชาติกุล ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ศาลจังหวัดนราธิวาส ได้นั่งบัลลังก์พิจารณาคดีที่ ศาลจังหวัดนราธิวาส นัดจำเลย 7 คน ในคดีตากใบ มาสอบคำให้การ หลังจาก เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ศาลจังหวัดนราธิวาส มีคำสั่งรับฟ้องคดีอาญาตากใบ ในนข้อหา ฆ่าผู้อื่น,พยายามฆ่าผู้อื่นและร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ 48 ราย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่หน้า สภ.ตากใบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 โดยมีการเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมขึ้นรถทหารไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ในลักษณะให้นอนซ้อนกันทำให้มีผู้เสียชีวิต 78 รายจากการขาดอากาศหายใจ และ 7 ราย เสียชีวิต จากการสลายการชุมนุม โดยศาลเห็นว่าคดีมีมูลตามที่โจทก์ยื่นพยานหลักฐาน และมีเหตุการณ์สลายการชุมนุมและการเคลื่อนย้ายเกิดขึ้นจริง



ซึ่งศาลนัดเวลา 09.00 น. แต่เมื่อถึงเวลา จนถึงเวลา 11.00 น.ศาลแถลงว่า จำเลยทั้งหมดไม่ปรากฏตัวต่อศาล และไม่ได้แจ้งเหตุขัดข้องว่าไม่สามารถมาได้ ศาลจึงออกหมายจับจำเลย 6 คน ประกอบด้วย



จำเลยที่ 3 พล.อ เฉลิมชัย วิรุฬห์เพชร



จำเลยที่ 4 พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์



จำเลยที่ 5 พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์



จำเลยที่ 6 พล.ต.ต.ศักดิ์สมหมาย พุทธกูล



จำเลยที่ 8 นายศิวะ แสงมณี



จำเลยที่ 9 นายวิชม ทองสงค์



ส่วน จำเลยที่ 1 พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้รับความคุ้มกันตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 และอยู่ระหว่างสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ศาลไม่สามารถออกหมายจับได้ และจับกุมไม่ได้ ศาลจึงจะมีหนังสือด่วนที่สุดไปยังสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขออนุญาตจับกุม ออกหมายเรียก และมีหนังสือด่วนที่สุดให้ พล.อ.พิศาล แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อสละความคุ้มกันและมาศาลในนัดหน้า ซึ่งศาลนัดในวันที่ 15 ตุลาคม



ส่วนจำเลย 6 คนที่ถูกออกหมายจับ ให้ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และตำรวจศาล มีอำนาจจับกุมทันทีที่พบตัว ภายในอายุความ 25 ตุลาคมนี้



ทนายความ เป็นห่วงว่าหากไม่สามารถจับกุมตัวจำเลยตามหมายจับได้จนถึงวันหมดอายุความ คดีจะสิ้นสุดลง แต่มองว่าการต่อสู้ของครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บไม่สูญเปล่า เพราะการลุกมายื่นฟ้องจนศาลมีคำสั่งฟ้อง และออกหมายจับ ถือเป็นประวัติศาสตร์ ที่ถูกบันทึกไว้แล้วว่า การตายไม่สูญเปล่า



ทนายความในคดีที่มีทั้งสภาทนายความ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม และมูลนิธิผสานวัฒนธรรม เรียกร้องไปยังจำเลยทั้ง 7 ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะ พล.อ.พิศาล ในฐานะ สส.ต้องเคารพกฏหมาย อย่าใช้เทคนิคหรือหลบหนีไปจนกว่าคดีจะหมดอายุความ



ขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตต่างดีใจที่ได้เห็นความยุติธรรม แม้จะผิดหวังที่ไม่ได้เห็นหน้าของจำเลยในวันนี้ เพราะอย่างน้อยขอได้ยินเพียงคำว่าขอโทษ และอยากเห็นความยุติธรรมที่จริงใจ



ขณะที่ผู้บาดเจ็บ อย่างนายมะรือกี ดอเลาะ ยอมรับว่า บาดแผลทางกายของพวกเขายืนยันได้ว่าเหตุการณ์นี้มีอยู่จริง การลุกมาทวงคืนความยุติธรรม แม้สุดท้ายจะไม่สามารถให้คนผิดมารับโทษได้ แต่หวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก



สำหรับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 48 ราย มีเรื่องเศร้าที่นางตูวังนะ ตูแวมูดอ เสียชีวิตไป 1 ราย ก่อนวันที่จะรู้ว่าศาลได้ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องแล้ว ยังเหลือเวลาอีก 43 วัน ที่พวกเขายังรอคอยความยุติธรรม หลังผ่านมาแล้ว 20 ปี ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ข่าว 3 มิติรายงาน



ส่วนพลเอกพิศาล ไม่ได้เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีการอภิปรายนโยบายรัฐบาล นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน มีการตั้งคำถามถึงการรับผิดชอบในกรณีนี้ ซึ่งตามขั้นตอนศาลจังหวัดนราธิวาส จะส่งหนังสือด่วนที่สุด ผ่านศาลยุติธรรม ไปยังสภาผู้แทนราษฎร เพื่อแจ้งหมายเรียกการขออนุญาตจับกุม และการให้พลเอกพิศาล ขอสละความคุ้มกันระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร