ศาลทุจริตฯ คาดไม่เกิน 7 เดือน พิพากษา 'สมยศ' พร้อมพวก เปลี่ยนความเร็วรถ 'บอส อยู่วิทยา'

คดีที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง และพวกรวม 8 คน ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนช่วยลดความเร็วรถของ นายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา วันนี้ ทั้งหมดไปขึ้นศาล และศาลได้กำหนดเวลาว่า คดีนี้จะตัดสินได้ใน 7 เดือน



พนักงานอัยการปราบปรามการทุจริต 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. พร้อมพวกรวม 8 คน ในคดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันช่วยเหลือปรับความเร็วรถยนต์ที่นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาขับรถเฟอร์รารี่ด้วยความเร็ว พุ่งชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555



โดย พล.ต.อ.สมยศ เดินทางมาถึงศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หลังจากถูกซักถามในการมาสอบปากคำวันนี้ ก่อนจะเดินขึ้นไปยังบัลลังก์ศาล ทั้งนี้จากการสังเกต จำเลยอีก 7 คน ไม่ปรากฏตัวให้สื่อมวลชนเห็น จนกระทั่งถึงเวลาตามนัดของศาล คาดว่าจะมีการเดินทางมาถึงศาลก่อนหน้านั้นแล้ว



ศาลฯเริ่มพิจารณา โดยระบุว่า คดีนี้ตั้งกรอบเวลาพิจารณาไว้ที่ไม่เกิน 7 เดือน เหตุที่ต้องมีการกำหนดระยะเวลาให้รวดเร็วขึ้น เนื่องจากคดีความดังกล่าวเป็นที่สนใจของสาธารณชน คดีความและคู่ความมีความสำคัญ แต่ทั้งนี้ศาลจะมีการพิจารณาทำคำพิพากษาอย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จึงขอความร่วมมือให้คู่ความทั้งสองปฏิบัติตามกำหนดระยะเวลาของศาลอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้ระยะเวลายืดเยื้อออกไป



อย่างไรก็ตามในคดีนี้ด้วยคดีความมีความสำคัญ จากนี้เป็นต้นไป ศาลจึงขอให้จำเลย โจทก์ ทนายจำเลย ไม่ให้สัมภาษณ์ในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เพื่อโน้มน้าวสาธารณชนให้เกิดผลกระทบต่อการพิจารณาของศาล โดยไม่ให้ข้อมูลต่อสื่อสารมวลชน ในทุกช่องทาง รวมทั้งช่องทางออนไลน์ จนกว่าการพิจารณาคดีของศาล จะแล้วเสร็จ



สำหรับพยานหลักฐานที่ฝ่ายโจทก์ได้ยื่นต่อศาลมีทั้งหมด 344 พยาน ประกอบด้วย เอกสารทั้งหมดประมาณ 30,000 หน้า 15 ลัง 75 แฟ้ม พยานบุคคล 21 ปาก นอกนั้นเป็นพยานวัตถุ



ในกำหนดการต่อไป ที่เป็นการตรวจพยานหลักฐานกำหนดนัดวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ในครั้งแรกศาลตั้งใจนัดภายใน 30 วัน แต่ด้วยฝ่ายจำเลยและทนายมีเหตุขัดข้องมีธุระอื่น จึงต้องเลื่อนไปเป็นเดือนธันวาคม



สำหรับฝ่ายจำเลย วันนี้จำเลยที่ 1 ถึงจำเลยที่ 8 ทั้งหมดเดินทางมาศาล ได้ให้การต่อศาลปฏิเสธคดีและขอต่อสู้คดีต่อไป ทั้งหมดได้รับการประกันตัว ด้วยหลักทรัพย์เงินสดคนละ 2 แสนบาท