มุกใหม่มาอีกแล้ว! แก๊งคอลเซ็นเตอร์สวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร แฮกบัญชี โอนเงินออก

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้หาวิธีการใหม่ๆ เพื่อหลอกเงินออกจากบัญชีเหยื่อ ล่าสุดได้สวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งหนึ่ง ในขณะที่ผู้เสียหายกำลังทำธุรกรรมทางออนไลน์ กับธนาคารอยู่พอดี ทำให้ผู้เสียหายเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารจริง โทรมาแนะนำขั้นตอนการทำธุรกรรม แต่สุดท้ายเมื่อแนะนำการทำธุรกรรมเสร็จสิ้น มิจฉาชีพได้สวมรอยเป็นเจ้าของบัญชีได้สำเร็จ เงินได้ทยอยออกจากบัญชีเพื่อนำไปฟอกในแอปชอปปิ้งทางออนไลน์



ผู้เสียหาย ได้นำวิธีการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบใหม่ มาเปิดเผยให้กับสาธารณะชนได้รับทราบ เพื่อจะได้รู้เท่าทันกลลวงของมิจฉาชีพ ที่มาหลากหลายรูปแบบ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด ในช่วง15 นาฬิกาของวานนี้ ผู้เสียหายได้เข้าไปในแอปฯ ของธนาคาร เพื่อจะเพิ่มวงเงินในบัตรเครดิตที่ตนเองมีอยู่ และอยู่ระหว่างการทำธุรกรรมไม่ถึง 15 นาที



มิจฉาชีพได้สวมรอยเข้ามาแนะนำตัวเป็นพนักงานธนาคารแห่งนั้น อีกทั้งยังพูดข้อมูลถูกหมดทุกอย่าง โดยทราบว่าผู้เสียหายกำลังเพิ่มวงเงินธนาคารอยู่ และอ้างว่าการเพิ่มวงเงินต้องสมัครบัตรเดบิตของธนาคารก่อน ถึงจะได้รับการอนุมัติ



และตรวจสอบชื่อของเจ้าหน้าที่ธนาคาร ก็พบว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริง อีกทั้งยังรู้ข้อมูลของเหยื่อทุกอย่าง ทั้งเงินฝาก และค่าใช้จ่ายในบัญชีทั้งหมด ทำให้เหยื่อยิ่งเชื่อสนิทใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารจริง และมิจฉาชีพให้เปิดกล้องเพื่อแนะนำขั้นตอน จึงยอมเปิดกล้อง ในขั้นตอนการสมัครบัตรเดบิด กระทั่งได้รับรหัส OTP



ซึ่งคนร้ายก็ทราบรหัสก่อนเหยื่อ หลังจากนั้นมีการโอนเงินเข้า-ออกครั้งละ 1 บาท หลายรอบ แต่ครั้งสุดท้ายมีเงินถูกโอนออกจากบัญชีไปเกือบ 5 หมื่นบาท ทำให้เหยื่อรู้ตัวว่า ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ธนาคารจริง และมิจฉาชีพก็ติดต่อไม่ได้อีกต่อไป



ขณะที่ผู้เสียหายได้รีบอายัดบัญชีบัตรเดบิด ทันที และได้เดินทางมาร้องเรียนกับตำรวจสอบสวนกลาง โดยพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย และพ.ต.อ.วัชรพันธ์  ศิริพากษ์ ตำรวจปอท. รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายและได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น พบว่าการทำธุรกรรมในการเพิ่มวงเงินของผู้เสียหายยังไม่สำเร็จ แต่คนร้ายได้อาศัยจังหวะนี้เข้ามาสวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร เมื่อเหยื่อหลงเชื่อได้เปิดกล้องให้มิจฉาชีพแนะนำการทำบัตรเดบิต คนร้ายได้copyข้อมูลสวมรอยเป็นผู้เสียหาย เพื่อนำไปซื้อสินค้ากับร้านทางออนไลน์ แต่มิจฉาชีพทราบข้อมูลว่าเหยื่อกำลังทำธุรกรรมกับทางธนาคารได้อย่างไรอยู่ระหว่างการตรวจสอบ



ซึ่งเจ้าหน้าที่เตือนว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นมิจฉาชีพได้สวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ เกือบทุกหน่วยที่จะหลอกคนไทยได้ และสวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อแฮกเงินออกจากบัญชี ก็เริ่มมีเหยื่อแล้ว คาดมีการนำเงินไปฟอกในการซื้อทองคำ โดยผู้เสียหายรายนี้เมื่อปีที่แล้ว ได้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นบริษัทขายสินค้าออนไลน์ หลอกให้ทำภารกิจ แต่ต้องนำเงินของเหยื่อโอนไปก่อน สูญเงินไปร่วม 6 แสนบาท