ป.ป.ช. รับเรื่อง เร่งสอบโครงการสร้างศูนย์ราชการฯ นนทบุรี ชี้พบพิรุธหลายจุด-ผู้รับเหมาเบิกเงินไปแล้ว 12 ล้าน

เมื่อเดือนพฤษภาคมข่าว 3 มิติ เคยนำเสนอความผิดปกติของโครงการก่อสร้าง ศูนย์ราชการแบบเบ็ดเสร็จอำเภอเมืองนนทบุรี มูลค่าโครงการกว่า 81 ล้านบาท ที่เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งพบความผิดปกติเพราะผู้รับจ้างขอเบิกเงินล่วงหน้าไปแล้ว 12 ล้านบาท แต่มาตรวจพบภายหลังว่าใช้เอกสารสารค้ำประกันสัญญาไม่ถูกต้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ของอำเภอในขณะนั้น ก็ไม่ดำเนินการเอาผิด จนท้ายที่สุดต้องบอกเลิกสัญญาโครงการไป และมีผู้เสียหายรวมตัวกันแจ้งความผู้รับจ้างรายนี้ เช่นอ้างชื่อไปจดเป็นกิจการร่วมค้า และค้างเงินค่าวัสดุก่อสร้างอีกหลายโครงการ



ล่าสุดคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องนี้ไว้ตรวจสอบ เพราะโครงการมีข้อพิรุธหลายอย่าง ซึ่งอาจเชื่อมโยงไปถึงอดีตข้าราชการ ที่เกษียณอายุไปแล้ว



นี่เป็นหลักฐานที่ผู้เสียหายส่วนหนึ่งไปแจ้งความเพิ่มเติมว่าถูกผู้รับเหมารายหนึ่งโกงเงินค่าปรับปรุงปั๊มน้ำมันไปกว่า 4 แสน 5 หมื่นบาท ซึ่งเป็นเงินที่จ่ายมัดจำล่วงหน้าแต่ไม่ได้เข้าทำงานจริง



ผู้เสียหายอีกรายคือเจ้าของปั๊มน้ำมันในจังหวัดชลบุรีที่ถูกหลอกลักษณะคล้ายกัน คือทำสัญญาก่อสร้างร้านขายกาแฟ และขอเบิกเงินล่วงหน้า 3 ล้านบาท จากนั้นผู้รับเหมาก็ทิ้งงานไป



นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากผู้เสียหายกว่า 40 ราย ที่แจ้งความดำเนินคดีบริษัทแห่งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2567 บางคดีตำรวจสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการไปแล้ว แต่บางคดีกลับไม่มีความคืบหน้า



เรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นจากข้อมูลร้องเรียนไปยังสำนักงาน ป.ป.ท.เขต 1 ว่ากิจการร่วมค้าพีน่า-ช.ศิลป์สถาปัตย์ ที่ชนะประกวดราคาโครงการก่อสร้างศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จอำเภอเมืองนนทบุรี อาจใช้หนังสือสัญญาค้ำประกันจากธนาคารอย่างไม่ถูกต้อง



การสอบสวนของ ป.ป.ท. พบว่าขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ตรวจพบความผิดปกตินี้จริง และธนาคารก็ปฏิเสธไม่รับรองเอกสาร แต่นายอำเภอสั่งไม่ให้รายงานไปยังจังหวัด แม้ผู้รับเหมาจะเบิกเงินล่วงหน้าไปแล้ว 12 ล้านบาท



ขณะที่ตัวแทนบริษัท ช.ศิลป์สถาปัตย์ ที่มีชื่อเป็นคู่สัญญาก็ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ด้วย โดยถูกนำชื่อไปอ้างเป็นกิจการร่วมค้า



เมื่อการสอบสวนพบว่าโครงการนี้มีความผิดปกติเกิดขึ้นจริง ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีจึงสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาความจริง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานความคืบหน้า



ล่าสุดผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนนทบุรี ระบุว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องนี้ไว้ตรวจสอบแล้ว โดยจะขอเอกสารหลักฐานโครงการนี้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะพยานบุคคลที่ทำหน้าที่เบิกจ่ายเงินค่าจ้างล่วงหน้ากว่า 12 ล้านบาท



ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนนทบุรี ย้ำว่าคดีนี้จะเร่งดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนด เพราะมีอดีตข้าราชการที่เกษียณอายุไปแล้วเกี่ยวข้องด้วย เพื่อให้สามารถเอาผิดทางวินัยได้ตามกรอบระยะเวลา 3 ปี หากพบว่าบุคคลนั้นกระทำความผิดจริง