สังคม
ตรวจยึด 2 จุด จ.เชียงใหม่ ลานกางเต็นท์ป่าในแม่ริม - ยึดไม้เถื่อนกว่า 10 ล้านบาท ซุกโกดังหางดง
โดย panwilai_c
14 ส.ค. 2567
417 views
อีกหนึ่งประเด็นปัญหาสิ่งเเวดล้อมที่ข่าว 3 มิติ ติดตามนำเสนอต่อเนื่อง ก็คือกรณีบุกรุกครอบครองพื้นที่ป่า เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน เข้าบังคับใช้กฎหมายกับรีสอร์ตบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.วังน้ำเขียว ล่าสุดวันนี้ที่เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่เปิดปฏิบัติการพร้อมกัน 2 จุด
โดยคดีเเรกชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ เข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าชุมชนใน อ.เเม่ริม หลังพบกลุ่มทุนเข้ามาก่อสิ่งปลูกสร้าง-ทำลานกางเต็นท์และซิปไลน์ไว้บริการนักท่องเที่ยว ส่วนอีกคดีอยู่ที่ อ.หางดง ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับ"ชุดพญาเสือ" กรมอุทยานฯ บุกยึกไม้เถื่อนมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ซุกซ่อนในโกดัง เตรียมส่งขายให้นายทุนชาวต่างชาติ
หนึ่งวันก่อนเริ่มปฏิบัติการ ชุดพยัคฆ์ไพร ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) เข้าสังเกตการณ์ในจุดที่ได้รับการร้องเรียน เป้าหมายตั้งอยู่บนสันเขากลางป่าชุมชุนบ้านปงไคร้ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จุดนี้สูงจากระดับน้ำทะเล 1,350 เมตร ถือว่าสูงที่สุดบนดอยม่อนแจ่ม
กระทั่งช่วงสายวันนี้ เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจสอบ โดยการอำนวยการของ"ว่าที่พันตรีนรินทร์ ปิ่นสกุล" ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 นายมนตรี ปลูกปัญญา ผู้อำนวยการส่วนจัดการป่าชุมชน เเละนายไพโรจน์ บุญรัตน์สิริ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้
โดยร่วมกันตรวจยึดสิ่งปลูกสร้าง-ลานกางเต็นท์แบบถาวร 15 หลัง อีก 2 หลังพบว่าคนงานอยู่ระหว่างหล่อเสาโครงสร้าง ที่น่าสนใจก็คือในโซนป่าทึบ พบจุดโหนสลิงหรือซิปไลน์ ผูกโยงกับต้นไม้หลายจุด ขณะตรวจสอบพบผู้รับจ้าง 3 ราย อ้างเเละซัดทอด โดยบอกว่ามีนายทุนที่ภูเก็ตโทรมาแจ้งให้พวกเขาทั้ง 3 คน หลบหนี
เจ้าหน้าที่สืบสวนในทางลับ พบข้อมูลว่าก่อนหน้านี้ มีนายทุนภูเก็ตที่เรียกกันว่าโก หรือนายหัว อักษรย่อ พ.พาน เข้ามาให้ความหวังกับชาวบ้าน โดยบอกว่าจะเข้ามาลงทุนสร้างจุดโหนสลิงเพื่อรับนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้ชุมชน แบ่งผลประโยชน์ให้หัวละ 200 บาท ระหว่างยื่นขออนุญาตต่อคณะกรรมการป่าชุมชนจังหวัด สามารถปลูกสร้างได้เลย เพราะเคลียเจ้าหน้าที่ไว้หมดแล้ว
ที่ผ่านมามีการเปิดเพจ เริ่มเปิดให้บริการซิปไลน์แล้ว โดยเก็บค่าบริการรายละ 1,200 - 1,900 บาท นักท่องเที่ยวต้องจองในเว็บไซต์ แต่จนถึงขณะนี้ชุมชนก็ยังไม่เคยได้รับค่าตอบแทนตามที่กล่าวอ้าง เจ้าหน้าที่ตรวจยึด แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อติดตามตัวนายทุนรายนี้มาดำเนินคดี ตามพ.ร.บ.ป่าชุมชน อันถือว่าเป็นการยึดถือครอบครอง ก่นสร้าง แผ้วถาง และกระทำการใด ๆ ในเขตป่าชุมชน โดยมิได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการป่าชุมชนประจำจังหวัด
นอกจากรุกป่าชุมชน ปัญหาลอบตัดไม้ก็ยังมีความเคลื่อนไหวเป็นระยะ วันนี้ชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่"ชุดพญาเสือ กรมอุทยานฯ" ตชด. เเละกองกับการสืบสวนภาค 5 นำหมายศาลเข้าตรวจค้นโรงงานไม่มีเลขที่ บ้านหนองแก๋ว ต.หนองแก๋ว อ.หางดง ย่านบ้านถวาย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าหัตถกรรมชื่อดัง
จากการตรวจค้น พบไม้ชิงชันแปรรูปขนาด 12x12 นิ้ว และขนาด 8x8 นิ้วรวมทั้งหมด 65 ท่อน และไม้ประดู่แปรรูป 70 นิ้ว หนา 3 นิ้ว และขนาด 13 นิ้วหนา 1 นิ้ว 115 แผ่น นอกจากนี้ยังพบไม้ประดู่ 20 เเผ่นน้ำหนักกว่า 1 ตัน กองอยู่ในโกดัง ตรวจพบร่องรอยการขนไม้เข้า-ออกจากโกดังได้ไม่นาน
หญิงคนนี้เป็นชาวแม่ฮ่องสอน รับเป็นคนดูแลโกดัง ให้การว่าที่ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าของโกดัง ให้กลุ่มคนขับรถบรรทุกเช่าโกดัง ซึ่งมีการนำไม้แปรรูปมาพักไว้แต่เธอไม่ทราบมาก่อนว่า ไม้แปรรูปเป็นไม้ที่ผิดกฎหมาย เพราะมีหน้าที่คอยเปิด-ปิดประตูโกดังขณะที่มีการขนไม้เข้า-ออกเท่านั้น ล่าสุดที่มีการขนไม้ ก็คือช่วงเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา
-เจ้าหน้าที่ได้แจ้งกล่าวหา ร่วมกันทำไม้หรือกระทำด้วยประการใด ๆ แก่ไม้หวงห้ามในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต เเละความผิดอื้น ๆ อีกหลายข้อหา
-ร.ต.อ.จิรายุ อิ่นแก้ว รอง สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปทส. หัวหน้าชุดจับกุมเปิดเผยว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ให้นโยบายเร่งรัดปราบปรามการกระทำความผิด ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงสนธิกำลังสืบสวนสอบสวน ร่วมออกลาดตระเวนในพื้นที่สุ่มเสี่ยงที่มีการลักลอบตัดไม้ กระทั่งพบการแปรรูปไม้กลางป่าในพื้นที่อำเภอแม่ริม จึงวางแผนนำเครื่องติดตาม GPS สะกดรอยตามมาจนพบว่า ไม้เถื่อนล็อตนี้ ถูกนำมาเก็บไว้ที่นี่ จึงขอหมายศาลเข้าตรวจค้น และตรวจยึดไม้แปรรูปทั้งหมด
การสืบสวนเชิงลึก พบว่าไม้ประดู่และไม้ชิงชันล็อตนี้ เตรียมส่งขายให้นายทุนต่างประเทศ ด้วยการปะปน อำพรางกับสินค้าหัตถกรรม-ส่งออกไปยังต่างประเทศทางเรือ ซึ่งไม้ชิงชันและไม้ประดู่ เป็นที่นิยมในกลุ่มชาวต่างชาติ เชื่อว่าเป็นไม้มงคล ทำให้มีความต้องการและมีราคาสูง หากไม้เถื่อนล็อตนี้หลุดรอดไปถึงต่างประเทศได้ จะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท
การข่าวพบว่าขบวนการนี้ เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.ฮอด อ.แม่แจ่ม และอ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ และบางพื้นที่ของ จ.แม่ฮ่องสอน จากนี้เจ้าหน้าที่จะขยายผล ติดตามจับกุมขบวนการค้าไม้เถื่อนข้ามชาติกลุ่มนี้ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้อง บุกรุกป่า ,รุกป่า ,ที่ดิน ,ยึดไม้เถื่อน ,ลานกางเต็นท์ป่า