รวบเครือข่ายลำเลียงไอซ์ 1.5 ตัน สู่น่านน้ำสากล ตร.เชื่อคนไทย-ต่างชาติร่วมมือกัน

ในช่วงที่ผ่านมาพบไอซ์ลอยเกลื่อนทะเลจำนวนมาก และยังลอยมาริมชายหาดในภาคตะวันออก จนเป็นที่คาดการณ์ว่ามีขบวนการขนส่งไอซ์ออกนอกประเทศ ผ่านทางทะเลในภาคตะวันออก กระทั่งตำรวจปราบปรามยาเสพติดสามารถจับเครือข่ายได้ ที่อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยมีไต้ก๋งเรือ ผันตัวมารับงานขับเรือสปีดโบ้ท ส่งไอซ์ขึ้นเรือใหญ่ ที่จอดรออยู่กลางทะเล


จากการพบไอซ์ลอยกลางทะเล ในภาคตะวันออก กลายเป็นที่มาของการติดตามแกะรอย ขบวนการขนไอซ์ข้ามชาติทางทะเล โดยตำรวจกองบังคับการข่าวกรองยาเสพติด และตำรวจปราบปรามยาเสพติด ทราบความเคลื่อนไหวของไต้ก๋งเรือ


นายอนันต์ อายุ50ปี และนส.ศุภรัตน์ อายุ 33ปี แฟนสาว โดยสารเครื่องบินจากจ.สงขลา มายังดอนเมือง และเช่ารถไปยังรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในอ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยนายอนันต์เป็นผู้เชี่ยวชาญการเดินเรือมาก่อน จึงถูกว่าจ้างให้เป็นผู้ประสานงานทีมลำเลียงทางทะเล ซึ่งนายอนันต์ได้ว่าจ้าง นายนพเก้า ให้มาขับเรือสปีดโบ้ท ซึ่งซื้อมาเพื่อรับงานนี้


จากการติดตามนายอนันต์และแฟนสาว แต่เมื่อไปถึงรีสอร์ท ตำรวจปส.กลับพบทีมงานกลุ่มใหญ่ พักรออยู่ที่รีสอร์ทแล้ว นับ 10 ราย โดยมีนายจารุชัย อายุ 51ปี เป็นผู้ประสานหาทีมลำเลียงทางบก ซึ่งทีมลำเลียงกำลังขับรถกระบะตู้ทึบเข้ามาส่งพอดี โดยมีรถเก๋งขับนำมา 2 คัน กำลังขนของลงเรือสปีคโบ้ท เจ้าหน้าที่กระจายกำลังกันปิดล้อม โดยบางรายหนีไปหลบในห้องน้ำ ในที่สุดจับผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 10 ราย เป็นเยาวชน อายุ16ปี 1 ราย แบ่งหน้าที่กันทำงานเป็นทีมลำเลียงทางบก และทีมลำเลียงทางทะเล

โดยหลังจากนายชาญชัย หรือกัปตันตุ้ย ถูกออกหมายจับ ก็พบว่าเครือข่ายลำเลียงยาข้ามชาติยังรับงานต่อเนื่อง จากการสืบสวนพบว่ากัปตันตุ้ย ยังร่วมกับนายนพดลซึ่งมีหมายจับหลบหนีอยู่ฝั่งเมียนม่า ได้ไปรวมตัวกัน เพื่อสั่งการมายังฝั่งไทย โดยติดต่อไต้ก๋งเรือ ที่เคยรู้จักกันมาก่อนให้รับงาน ซึ่งนายอนันต์ มีความเชี่ยวชาญทางเรือและอยู่ระหว่างต้องคดีค้าน้ำมันเถื่อน ที่สงขลา


โดยเส้นทางการลำเลียง ทีมทางทะเลเคยขับสปีดโบ้ท ขนไอซ์ไปขึ้นเรือใหญ่ ที่จอดอยู่กลางทะเล มาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งครั้งนี้จะแล่นนอกน่าน้ำสากลไปยังไต้หวัน


เจ้าหน้าที่เชื่อว่า การลำเลียงไอซ์ข้ามชาติ มีทั้งชาวไทยและต่างชาติร่วมอยู่ด้วย โดยประเทศปลายทางมักแจ้งมาว่าพบชื่อคนไทย เป็นผู้ส่งยา