ตร. พบ โรงงานเถื่อนในนครปฐม ครอบครองอลูมิเนียมดรอส 12,000 ตัน พบเจ้าของเป็นคนจีน

เมื่อวานนี้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง ตรวจพบรถบรรทุกคันหนึ่งขนกากอุตสาหกรรม จากจังหวัดนครปฐม โดยไม่มีเอกสารกำกับการขนส่งหรือใบอนุญาตใดๆ เมื่ออุตสาหกรรม จังหวัดนครปฐม ตำรวจ ปทส. และกรมโรงงานอุตสาหกรรม มาตรวจ ก็พบว่าเป็นฝุ่นจากหน้าเตาหลอมอลูมิเนียม ดรอส เป็นกากอุตสาหกรรม ที่ถูกจัดเป็นวัตถุอันตราย ซึ่งผู้ครอบครอง ขนย้าย หรือประกอบกิจการต้องไม่มีใบอนุญาต แต่กรณนี้ไม่พบใบอนุญาตใดทั้งสิ้น


เมื่อวานนี้ ตำรวจทางหลวงนครปฐม โดยสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง พบรถบรรทุกกึ่งพ่วง 22 ล้อ บรรทุกถุงบิ๊กแบ๊กจำนวนมาก ไปตามถนนทางหลวงหมายเลข 325 ต.ถนนขาด อ.เมืองนครปฐม ซึ่งตำรวจทางหลวงสงสัยว่าเป็นกากอุตสาหกรรมหรือไม่ จึงส่งสัญญาณขอเข้าตรวจ โดยรถคันนี้มีนายปรเมศวร์ อายุ 42 ปี เป็นคนขับ


ตำรวจตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าสิ่งของที่บรรทุกมา มีลักษณะผงสีเทาคล้ายกากอุตสาหกรรมโรงงาน จึงประสานให้อุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐมมาตรวจสอบเบื้องต้น ซึ่งนายทรงเดช ผ่องฉวี เจ้าพนักงานตรวจโรงงานของสำนักงานอุสาหกรรมจังหวัดนครปฐม ระบุว่าจากการตรวจเบื้องต้น น่าจะเป็นฝุ่นจากเตาหลอมอลูมิเนียมดรอส และในรถคันนี้


ไม่ปรากฎหลักฐานการขนส่งจากต้นทาง และปลายทาง ถือเป็นการขนส่งโดยไม่มีใบอนุญาต ตำรวจทางหลวงจึงตรวจยึดไว้ก่อนตั้งแต่เมื่อวานนี้


เบื้องต้น นายปรเมศวร์ คนขับรถ ให้การว่าเห็นประกาศในเฟซบุ๊กว่า โรงงานแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดสมุทรสาคร ประกาศรับสมัครคนรับงานขนส่ง ตนสนใจจึงติดต่อไป และได้ตกลงรับงาน โดยทราบว่าสิ่งของที่จะต้องไปบรรทุก คือ อลูมิเนียม ชนิดก้อนบรรจุในถึงบิ๊กแบ็ค โดยเขาได้ขับรถบรรทุกกึ่งพ่วงไปรับฝุ่มิเนียม-ดรอส จากโรงงานแห่งหนึ่ง ใน ตำบลโพรงมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครปฐม เพื่อไปส่งที่จังหวัดสมุทรสาคร


จากนั้น ประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม /พร้อมตำรวจทางหลวงนครปฐม /ตำรวจ กองกำกับการ 5 บก.ปทส. ได้เข้าค้นโรงงานนี้ ที่ตำบลโพรงมะเดื่อ อ.เมือง นครปฐม พบนายมาโนชย์รับเป็นผู้ดูแลโรงงานดังกล่าว และนำตรวจค้นร่วมกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งพบว่า มีการประกอบกิจการโรงงานคัดแยกเศษขี้เตา จากหลอมหล่อและหลอมเศษลูมิเนียม โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเข้าข่ายเป็นโรงงานไม่ได้รับอนุญาต และมีฝุ่นผงสีดำบรรจุอยูในถุงบิ๊กแบ็กเป็นจำนวนมาก


ข้อมูลจากการตรวจค้นเมื่อวาน พบว่าเจ้าของโรงงานเป็นชาวจีน ซึ่งข่าว 3 มิติตรวจสอบพบว่าเชื่อนายเจิ้ง ปิงหยาง นักธุรกิจชาวจีน และใช้แรงงานต่างด้าวประมาณ 10-15 คน และหลบหนีไปตั้งแต่เมื่อวาน ส่วนสถานที่ตั้งโรงงาน ก็ถูกตำรวจกองบัญชาการสอบสวนกลาง กระจายกำลังเฝ้าติดตามไว้ตั้งแต่เมื่อคืน กระทั่งเข้าตรวจค้นอย่างละเอียดในวันนี้