สกมช. เจาะระบบแก๊งดูดเงิน พบ 8 เดือน ดูดข้อมูลส่วนตัว-ภาพลับ เกือบ 20 ล้านไฟล์

เปิดปฏิบัติการของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ หรือ สกมช. ที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยี จนเจาะระบบฝังตัวเห็นทุกขั้นตอนของมิจฉาชีพแก๊งดูดเงิน ก่อนสกัดเงินไม่ให้เงินไหลออกจากบัญชีเหยื่อแบบเรียลไทม์ หรือ แม้เงินจะไหลออกไปแล้ว ก็ยังสามารถอายัดบัญชีได้ในทันที



วันนี้สามมิติยังมีเรื่องนี้มาเตือนภัยเพิ่ม เพราะระหว่างที่เจ้าหน้าที่ สกมช. ฝังตัวอยู่หลังบ้านของคนร้าย นอกจากจะเห็นทุกขั้นตอนการหลอกดูดเงินแล้ว ยังเห็นการดูดข้อมูลลับ ภาพถ่ายส่วนตัว และภาพถ่ายบัตรประชาชนของเหยื่อไปเก็บไว้เพื่อนำไปใช้ในเรื่องผิดกฎหมายต่างๆ ในระยะเวลาเพียง 3 เดือน ที่เจ้าหน้าที่ สกมช.แทรกซึมเข้าไปในฐานข้อมูลของคนร้ายเฉพาะในกลุ่มแก๊งใหญ่ ๆ ที่เจาะข้อมูลติดตามอยู่ สามารถดูข้อมูลย้อนหลังไปได้ 8 เดือน พบว่ามีข้อมูลส่วนบุคคลถูกดูดออกจากมือถือของเหยื่อคนไทยมากเกือบ 20 ล้านไฟล์



จอมือถือที่เห็นอยู่นี้ เป็นอีกรายหนึ่ง ที่เจ้าหน้าที่ฝังตัวอยู่ในระบบหลังบ้านของคนร้าย เห็นตลอดเวลาว่า มิจฉาชีพแก๊งดูดเงิน กำลังเข้าไปดูคลังภาพถ่าย แล้วดูดข้อมูลออกไป และยังเห็นว่าคนร้ายเข้าไปดูสลิปโอนเงินเก่าๆของเหยื่อ ในระหว่างเจรจาโทรคุยผ่านไลน์ ก็จะดูดข้อมูลต่างๆของเหยื่อไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะคลังภาพ จนในที่สุด ก็ได้รหัสธนาคาร และคนร้ายพบว่า มีเงินในธนาคารมากกว่า 50,000 บาท จึงต้องหลอกให้เหยื่อสแกนใบหน้า หน้าจอเหยื่อเห็นเป็นการสแกนเพื่อเชื่อมข้อมูลกับหน่วยงานที่คนร้ายอ้าง แต่เบื้องหลังของมือถือ ช่องที่รอใบหน้า คือ แอปธนาคารของเหยื่อนั่นเอง โชคดีที่ทั้งหมดนี้ อยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่ในห้องนี้ ที่ประสานกับธนาคารที่ร่วมโครงการนี้



และวันนี้ ยังมีหนึ่งกรณี ที่คนร้าย ไม่ต้องหลอกเอารหัสธนาคาร แต่ใช้คิวอาร์โค้ด หลอกให้สแกน โดยไม่รู้ว่า นี่คือ คิวอาร์โค้ดบัญชีม้า



เพื่อให้เห็นชัดเจนว่า นอกจากเงินแล้ว คนร้ายยังมุ่งที่จะดูดข้อมูล ดูดทุกภาพถ่ายของเหยื่อ ทันทีที่มีลิ้งค์คนร้ายส่งสุ่มเข้ามาในมือถือของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่กดรับลิ้งค์ไลน์ และยอมกดรับลิ้งค์ดูดเงิน ต่อไปนี้ เจ้าหน้าที่จะรอดูหลังบ้านมือถือของตัวเอง ว่าคนร้ายจะทำอะไรบ้าง



เจ้าหน้าที่ขอถ่ายรูปทีมข่าว 3 มิติ โดยปิดบังใบหน้า เพื่อเก็บไว้ในคลังภาพในมือถือของเจ้าหน้าที่ ระหว่างรอทำให้รู้ว่า วันๆนึงคนร้าย ได้ส่งลิ้งค์ไลน์กระจายหาเหยื่อในแต่ละวัน โดยอ้างถึงหน่วยงานมากมาย เมื่อเหยื่อหลงติดต่อกลับ คนร้ายก็จะติดต่อหลังบ้านซึ่งเป็นกลุ่มแชทชาวจีน เพื่อขอให้ส่งลิ้งค์ดูดเงินให้ตรงตามชื่อไลน์หน่วยงานที่เหยื่อติดต่อกลับมา



หลังจากเจ้าหน้าที่ ยอมโหลดแอปดูดเงิน เพียงไม่กี่นาที คนร้ายก็เริ่มย้ายข้อมูลในคลังภาพในมือถือเจ้าหน้าที่ ไปเก็บไว้ในคลังข้อมูลของมิจฉาชีพ เป็นการกวาดไปก่อนแล้วค่อยไปเลือกใช้ประโยชน์ในภายหลัง



เพียง 3 เดือน ที่เจ้าหน้าที่เข้าไปในระบบของคนร้ายเพียงไม่กี่แก๊ง สามารถสืบค้นข้อมูลย้อนหลังไปได้ประมาณ 8 เดือนพบข้อมูล และภาพลับส่วนตัวของคนไทย ถูกดูดไปเก็บไว้เกือบ 20 ล้านไฟล์ ในจำนวนนี้มีภาพถ่ายบัตรประชาชนประมาณ 2 หมื่นคน



เทคโนโลยีของ สกมช. ที่เจาะเข้าหลังบ้านมิจฉาชีพแก๊งดูดเงิน ทำให้สามารถประสานอายัดเงินได้ประมาณร้อยละ 30 ของจำนวนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในแต่ละวัน หากจะทำให้สามารถอายัดเงิน และสกัดการทำงานของคนร้ายได้เต็มศักยภาพ จำเป็นต้องแสวงหาความร่วมมือจากธนาคารให้ครบทุกธนาคาร รวมทั้งความร่วมมือจากค่ายโทรศัพท์มือถือ และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต จนครบทุกราย