อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งสอบทุกสวนเสือ ขยายผลหลังจับแก๊งค้าเสือโคร่งที่ จ.สุรินทร์

ชุดเฉพาะกิจพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมตำรวจนำหมายศาลเข้าค้นบ้านผู้ต้องหาค้าเสือโคร่งและงาช้าง ที่จังหวัดสุรินทร์ พบของกลาง ที่เกี่ยวข้อง จำนวนมาก รวมถึงภาพถ่ายและข้อมูลที่จะโยงใยไปถึงขบวนการเดียวกันอีกหลายคน ซึ่งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สั่งขยายผลตรวจสอบไปที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นต้นทางการขนส่งเสือไปขายที่จังหวัดสุรินทร์



ล่าสุดข่าว 3 มิติ ได้คลิปภาพ ผู้ต้องสงสัยคนหนึ่ง ขณะนำลูกเสือโคร่งสองตัวมาไปส่งให้คนในขบวนการ เพื่อนำไปขาย



ภาพจากกล้องหน้ารถคันนี้ บันทึกภาพขณะวิ่งตามหลังรถยนต์ป้ายแดงอีกคัน ในเวลประมาณ 6 นาฬิกาเมื่อวานี้ จากนั้นรถทั้งสองคันได้จอดชิดริมทาง แล้วคนขับรถคันที่จอดอยู่ด้านหน้า สวมกางเกงยีนส์ เสื้อยืด เดินลงจากฝั่งคนขับ มาพูดคุยกับเจ้าของรถที่มีกล้องวงจรปิด จากนั้นก็เดินไปเปิดประตูรถฝั่งผู้โดยสารแล้วหิ้วกรงเหล็กขนาดเล็กออกจากเบาะด้านหลัง มาส่งให้รถคันที่มีกล้องวงจรปิด พร้อมกับหยิบของที่ท้ายรถมาให้อีกหนึ่งครั้ง ก่อนที่รถทั้งสองจะขับตามหลัง และแยกย้ายกันออกไป



เหตุการณ์หลังคลิปภาพดังกล่าว ก็คือกรณีการนำลูกเสือ 2 ตัวในกรง ไปส่งมอบให้ผู้ติดต่อซื้อ กระทั่งชุดเฉพาะกิจพญาเสือ กรมอุทยานฯ ตำรวจ ปทส. และตำรวจภูธรดม อำเภอสังขะ จับได้เมื่อวานนี้พร้อมของกลางทั้งลูกเสือเพศผู้ เพศเมีย และงาช้างจำนวนมาก



สำหรับชายคนที่หิ้วกรงใส่ลูกเสือทั้งสองตัว เจ้าหน้าที่ทราบชื่อว่า สม อายุ 53 ปี เป็นชาวอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งล่าสุดได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับตำรวจ ปทส.แล้ว



นอกจากนายสม ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ วันนี้ชุดเฉพาะกิจพญาเสือฯ พร้อมตำรวจปทส.และตำรวจท้องที่ ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดสุรินทร์ ไปค้นบ้านพักของสามีภรรยา ที่ถูกน้ำพร้อมลูกเสือโคร่งเมื่อคืนนี้เพื่อหาหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติม



โดยผลการตรวจบ้านพักที่ถนนหลักเมือง ตำบลในเมือง พบอุปกรณ์เครื่องมือหลายรายการ ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการตัด หั่น หรือดัดแปลงงาช้าง เช่นเครื่องชั่งน้ำหนัก อุปกรณ์เลื่อยไฟฟ้า เศษงาช้าง สมุดบัญชีซื้อขายงาช้า สัญญาซื้อขายงาช้าง และภาพถ่ายการซื้อขายงาช้าง ทั้งหมดถูกยึดเป็นของกลางในคดี



ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ระบุว่าเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างแกะรอยหาของกลางที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็นเสือ หรืองาช้างที่เจ้าหน้าที่มีมูลว่าผู้ต้องหาเก็บและซ่อนไว้มากกว่านี้



ขณะที่ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่ให้ตรวจสอบสวนเสือทุกแห่ง หาเบาะแสการลักลอบค้าเสือผิดกฎหมาย และเช้าวันนี้ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 พร้อมตำรวจ และส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า เข้าตรวจสอบสวนเสือโคร่ง ในสวนเสือศรีราชาว่าการดำเนินงานเหมาะสมกับสุขอนามัยของสัตว์หรือไม่ และตรวจ DNA ซากเสือโคร่งที่ตายลง ซึ่งจะนำผล DNA ที่มีจากฐานข้อมูล และซากลูกเสือที่ได้ จะนำไปตรวจสอบกับ DNA ของลูกเสือที่ยึดที่ได้จังหวัดสุรินทร์ด้วย



และนอกจากสวนเสือศรีราชาแล้ว เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นของเอกชน และเป็นสถานที่ต้องสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับลูกเสือที่ส่งไปขายจังหวัดสุรินทร์ รวมถึงขอหมายค้น เข้าค้นบ้านนายสม ซึ่งมีหลักฐานว่าเกี่ยวข้องลูกเสือโคร่ง และได้แจ้งเข้ามอบตัวเมื่อหัวค่ำที่ผ่านมา.