สังคม
พงส. ให้น้ำหนักแรงจูงใจก่อเหตุ อุ้มฆาตกรรมนศ.จีน เรื่องชู้สาว-ประสงค์ต่อทรัพย์-เตรียมออกหมายจับแล้ว
โดย parichat_p
14 ก.ค. 2567
44 views
กรณีนักศึกษาหญิงชาวจีนที่หายตัวไประหว่างเดินทางมาประเทศไทย ก่อนจะพบหลักฐานหลายอย่างบ่งชี้ว่าเสียชีวิตแล้วนั้น ล่าสุดครอบครัวผู้ตายเดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน เพื่อเพื่อสอบถามรายละเอียดคดีและให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนนครบาลบางรัก ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ โดยพนักงานสอบสวนตั้งประเด็นสงสัยว่าชู้สาว หรือไม่ ก็ชิงทรัพย์ โดยยังไม่พบเบาะแสใดๆว่าเป็นการเรียกค่าไถ่
พ่อของหญิงชาวจีน พร้อมเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชฑูตจีน เข้าพบพันตำรวจเอกจิรพัฒน์ พรหมสิทธิการ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 และพันตำรวจเอกธรรมศักดิ์ สารบุญ ผู้กำกับการ สน.บางรัก เพื่อขอทราบรายละเอียดของเหตุการณ์ที่ลูกสาวเสียชีวิต และแนวทางดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ
พันตำรวจเอกธรรมศักดิ์ ระบุว่าครอบครัวผู้เสียชีวิตและเจ้าหน้าที่สถานทูตจีน ได้ยื่นคำร้องให้งตำรวจร่งสรุปสำนวนคดีและทำหนังสือถึงทางการจีน เพื่อให้ทางการจีน ร่วมดำเนินการสืบสวนสอบสวนเอาผิดนายชิงเหยียน ซึ่งเป็นชายชาวจีน ที่เป็นผู้ต้องสงสัย ฐานฆาตกรรมชาวจีนด้วยกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ ครอบครัวไปแจ้งความกับตำรวจจีนแล้ว แต่ตำรวจจีนยังไม่รับแจ้งความ
ขั้นตอนหลังจากนี้ เมื่อตำรวจไทยพิสูจน์ทราบ ยืนยันดีเอ็นเอผู้เสียชีวิตได้แน่นอนแล้ว ก็จะออกหมายจับผู้ต้องสงสัย และทำหนังสือรายงานเป็นหลักฐาน ไปยังสถานเอก อัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย จากนั้นสถานเอกอัครราชทูตจีน จะประสานกับตำรวจจีนว่าจะสอบสวนเองหรือไม่ หรือจะช่วยจับกุมและส่งตัวผู้ต้องสงสัย กลับมาดำเนินคดี ในไทยก็ได้ ตาม MOU ที่ลงนามไว้ แต่เบื้องต้นเชื่อว่าญาติประสงค์ให้ทางการจีนดำเนินการมากกว่า ทั้งเพราะเหตุผลเรื่องความสะดวก ของญาติและเรื่องอัตราโทษ ในประเทศจีนที่สูงกว่าในประเทศไทย
จนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวน ยังให้น้ำหนักแรงจูงใจในการก่อเหตุ เป็นเรื่องขัดแย้งเชิงชู้สาว และประสงค์ต่อทรัพย์ ส่วนเรื่องการเรียกค่าไถ่ยังถือว่าเป็นเพียงเรื่อง ที่เพื่อนผู้เสีย ชีวิต คิดเผื่อไว้ให้ครอบครัวผู้ตายเตรียมไว้เท่านั้น และหลังจากผู้ตายหายไป ก็ไม่พบหลักฐานการเรียกค่าไถ่ แต่จะรอสอบปากคำพี่เขยของผู้เสียชีวิตที่ได้รับแจ้งให้เตรียมเงินเผื่อการถูกเรียกค่าไถ่ ซึ่งจะเดินทางมาไทยในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้
พันตำรวจเอกธรรมศักดิ์ ระบุด้วยว่าหลังจากสอบปากคำครอบครัวเบื้องต้นแล้ว ได้รับการยืนยันว่าไม่เคยเห็นผู้ต้องสงสัยมาก่อน และผู้ตายก็ไม่เคยแจ้งครอบครัวว่า เดินทางมา ประเทศไทยด้วยวัตถุประสงค์ใด ส่วนผู้ต้องสงสัยเดินทางมาจากสิงคโปร์ จึงไม่ทราบว่าเป็นแฟนกันหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ตำรวจมั่นใจว่ามีหลักฐานมากพอ ที่จะขออนุมัติหมายจับได้ ระหว่างนี้จะเร่งรัดผลตรวจพิสูจน์ DNA กับสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อได้ผลตรวจDNAมา ก็ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ผ่านชิ้นส่วนศัลยกรรมอีก