สังคม

'วินัย ทองสอง' ไม่หวั่น 'บิ๊กโจ๊ก' ฟ้องหมิ่นฯ ปมเว็บพนัน ลั่นพร้อมเปิดหลักฐานต่อศาล

โดย panwilai_c

25 มิ.ย. 2567

19 views

ความเคลื่อนไหวกรณีความขัดเเย้งระหว่าง 2 บิํกตำรวจ วันนี้ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ส่งตัวแทนไปยื่นหนังสือขอให้ผบ.ตร. เร่งยกเลิกคำสั่งให้ออกจากราชการ พร้อมกับเดินหน้าฟ้องอดีตรอง ผบ.ตร. ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. กรณี"จงใจใส่ร้ายว่ามีความเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์" ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวจากนายตำรวจที่ถูกพาดพิง ก็คือ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ยินดีให้ฟ้องร้อง เพราะจะได้นำพยานหลักฐานทั้งหมด ออกมาเปิดเผยกับศาลและสาธารณชน



พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ตำรวจนายหนึ่ง เป็นตัวแทนยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยตำรวจที่มายื่นหนังสือแทน โดยขอไม่ให้ใช้ภาพในการนำเสนอข่าว เเละขอปกปิดชื่อ ตำเเหน่ง เเละหน่วยงานต้นสังกัด



สำหรับเนื้อหาในเอกสารที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มอบตัวเเทนมายื่นวันนี้ ระบุว่า ขอให้พิจารณายกเลิก หรือเพิกถอนคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 177/2567 อันเป็นคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมข้าราชการตำรวจรวม 5 นาย และคำสั่งที่ 178/2567 อันเป็นคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และข้าราชการตำรวจรวม 5 นายออกจากราชการไว้ก่อน



ในเอกสารไล่เรียงรายละเอียดทั้งหมด ที่น่าสนใจก็คือ วรรคท้ายของหนังสือระบุว่า หากพบว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ไม่ดำเนินการ ละเลย หรือประวิงเวลาจนเป็นเหตุให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และบุคคลอื่นได้รับความเสียหายต่อสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ต่อไป จะถือว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ มีเจตนากระทำความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157



ส่วนความเคลื่อนไหว ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ช่วงสายวันนี้ เดินทางไปยื่นฟ้อง "พลตำรวจเอก" นายหนึ่ง ซึ่งเป็นคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พร้อมระบุว่า พลตำรวจเอกนายนี้ เป็นกูรูด้านกฎหมายที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งขึ้น เพื่อตรวจสอบประเด็นความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่กลับให้สัมภาษณ์กับนักข่าว ที่ทำให้สื่อมวลชนและประชาชนเข้าใจว่า "พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือบิ๊กโจ๊ก" มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเว็บพนันออนไลน์ จากกรณีที่ถูกศาลออกหมายจับ จึงมาฟ้องตำรวจนายนี้ "ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา" ซึ่งคนที่"บิ๊กโจ๊ก"พูดถึง หลายฝ่ายก็มุ่งเป้าไปที่ "พลตำรวจเอก วินัย ทองสอง" ที่เคยออกมาเเถลงเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา



พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ บอกว่า แม้ศาลจะออกหมายจับเขาในคดีเว็บพนันออนไลน์ แต่ก็เป็นกรณีที่ไม่ไปตามหมายเรียก ไม่ใช่เพราะกระทำความผิด และอดีตนายตำรวจท่านนั้นซึ่งเป็น หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบประเด็นความขัดแย้ง มีหน้าที่เพียงตรวจสอบและรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ ไม่ได้มีหน้าที่ออกมาพูดวินิจฉัยเรื่องคดี หรือพิพากษาคดีแทนศาล



การที่กูรูให้ความเห็นคดีชี้นำสังคม ทำให้สังคมเชื่อไปแล้วว่าเขารับเงินเว็บพนันจริง หรือมีความผิดฐานฟอกเงิน จึงเข้าข่ายหมิ่นประมาท และหลังจากนี้เตรียมฟ้องกูรูอีก 1 คนด้วย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทเช่นเดียวกัน และสัปดาห์หน้าจะยื่นฟ้องผู้บังคับบัญชาระดับสูงด้วย



ด้าน พล.ต.อ.วินัย ทองสอง เปิดเผยกับทีมข่าวอาชญากรรมช่อง 3 ผ่านทางโทรศัพท์ได้คำตอบว่า ยินดีที่ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฟ้องร้อง จะได้นำพยานหลักฐานทั้งหมด ออกมาเปิดเผยกับศาลและสาธารณชน เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิ์ของตนเองเช่นกัน



ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ที่ประชุมอนุกรรมการ ก.ตร. มีคะแนนเอกฉันท์ 10 ต่อ 0 ว่า กรณีที่ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในขณะเป็นรักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้เซ็นหนังสือคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการ "ถูกต้อง" ตามระเบียบตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 แต่ยอมรับว่า มีการประชุมเรื่องนี้จริงเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา



ซึ่งคณะอนุกรรมการลงความเห็นในครั้งแรกออกมาเป็นเอกฉันท์ว่า การเซ็นหนังสือคำสั่งดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ แต่มีการลงมติในรอบที่ 2 เนื่องจากมีผู้มาเข้าประชุมเพิ่มอีก 1 คน ทำให้การการลงมติเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่ลงมติความเห็นตามเดิม แต่มีอนุกรรมการ 1 คนที่งดออกเสียง



ซึ่งผลการลงมติดังกล่าว จะนำส่งต่อไปให้นายกรัฐมนตรีและที่ประชุมคณะ ก.ตร.ชุดใหญ่ ในวันพรุ่งนี้ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมตินี้จะถูกนำไปประกอบกับความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา และความเห็นของผู้ร่วมเข้าประชุมคนอื่น ๆ คาดว่าน่าจะมีผลชี้ขาดในวันพรุ่งนี้



ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังประชุมครม. โดยยอมรับว่า การประชุมก.ตร.พรุ่งนี้ มีประเด็นเรื่องการกลับเข้ารับราชการได้หรือไม่ได้ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ชึ่งเป็น 1 ในประเด็นที่จะต้องพิจารณา โดยคณะกรรมการที่พิจารณาทางวินัย กับคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรม จะนำข้อมูลต่าง ๆ มาร่วมพิจารณา ซึ่งจะต้องฟังให้รอบด้าน



นายกฯ ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะ 3-4 เดือนที่ผ่านมาก็พยายามแก้ไข แต่มีขั้นตอนทางกฎหมายที่ต้องทำ "เข้าใจและเห็นใจทุกคนที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าไม่ได้ลำเอียง หรือเข้าข้างใคร ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย"



นักข่าวถามว่า เป็นการขู่หรือไม่ ที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะดำเนินการฟ้องร้อง นายกฯ บอกว่า ส่วนตัว "เข้าใจว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีความเดือดร้อน ร้อนใจ และไม่ได้มองว่าเป็นการขู่"



ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีสิทธิ์ฟ้องนายกฯ ได้ แต่เห็นว่าไม่น่าฟ้อง และไม่ควรฟ้อง เพราะมีช่องทางอื่นที่สามารถร้องได้ เช่น คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน ยกเว้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะไปแก้ไขเยียวยาให้เป็นอย่างอื่น

คุณอาจสนใจ

Related News