สังคม
'ชัยชนะ' ทวงผลสอบ 2 บิ๊กตร. หลังสังคมมองเกี้ยเซียะ นายกฯขออย่าด่วนสรุป ให้เป็นตามขั้นตอนกม.
โดย panwilai_c
21 มิ.ย. 2567
50 views
หลังนายกรัฐมนตรีเซ็นอนุมัติคำสั่งให้พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล กลับมาปฏิบัติหน้าที่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ วันนี้ก็ยังไร้วี่แววที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะที่นายชัยชนะ เดชเดโช ประธานคณะกรรมาธิการตำรวจ ก็เรียกร้องให้มีการเปิดเผยรายละเอียดในการตรวจสอบข้อเท็จจริงออกมา
ด้านนายกรัฐมนตรี ขออย่าเพิ่งหาบทสรุปว่าใครผิดหรือถูก เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 คน โดยปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
บรรยากาศที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติวันนี้ มีสื่อมวลชนหลายสำนักมารอติดตามความเคลื่อนไหว และการกลับเข้ามาทำงานวันแรกของพลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ หลังนายกรัฐมนตรีเซ็นอนุมัติคำสั่งให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ปรากฎว่าวันนี้ก็ยังไม่กลับมาทำงาน โดยทั้งบริเวณที่จอดรถประจำตำแหน่ง ผบ.ตร. ก็ยังไม่มีรถของพลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ และยังไม่มีรถของ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รวมถึงรถของ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเช่นกัน
นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการการตำรวจ เรียกร้องให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยรายละเอียดผลสอบข้อเท็จจริงที่ชัดเจนออกมา หลังลงนามคำสั่ง ให้พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กลับคืนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงกรณีการตรวจสอบ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะมองว่า การแถลง ของ นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด ในเรื่องผลการตรวจสอบว่าเป็นอย่างไร โดยระบุเพียงให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กลับไปปฏิบัติหน้าที่ ตามเดิม
นายชัยชนะ จึงมองว่า เรื่องนี้มีการประนีประนอมเจรจา หรือ การเกี้ยเซี้ยะ กันเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะเมื่อเกิดความขัดแย้งกันก็จะจบที่การเกษียณราชการ แต่องค์กรยังคงทำหน้าที่ต่อ ดังนั้นจึงไม่อยากให้เกิดการปฏิบัติที่เป็นการทำลายองค์กร ส่วนความขัดแย้งของคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ควรยุติ เพราะสิ่งสำคัญคือตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชน โดยในส่วนของกรรมาธิการการตำรวจ ก็จะติดตามความชัดเจนต่อไป
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีของบิ๊กตำรวจทั้ง 2 นายนี้ ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งด่วนสรุป หลังผลสอบที่ออกมาทำให้ประชาชนค่อนข้างผิดหวัง เนื่องจากยังไม่มีการลงโทษเกิดขึ้น โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขอดูในส่วนของคำสั่งก่อน ว่าส่วนที่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้มีเนื้อหาอย่างไร
ส่วนภาพลักษณ์วงการตำรวจที่ค่อนข้างออกไปในทางลบ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัญหาในองค์กรมีอยู่แล้ว การที่เข้ามาดูเรื่องนี้ด้วยตัวเองก็เพื่อพยายามจะสะสาง และ บริหารจัดการ ซึ่งปัญหาที่เบอร์ 1 และเบอร์ 2 ขององค์กรทะเลาะกัน ตอนนี้ก็ใกล้สิ้นสุดแล้ว และ ไม่เคยปล่อยปละละเลย เมื่อผลออกมาก็จะมาพูดคุยกันอีกครั้ง โดยต้องให้ความเป็นธรรมตามกระบวนการกฎหมาย
พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กล่าวถึงกระแสเตรียมขอออกจากราชการก่อนการเกษียณอายุราชการในปีหน้าหรือ Early retired หลังมีการเชื่อมโยงว่าอาจเกี่ยวข้องกับการที่ 2 นายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีเว็บพนันจะกลับมาดำรงตำแหน่งหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาตำรวจไซเบอร์เป็นผู้รับผิดชอบการปราบปรามเว็บพนันต่างๆ
พลตำรวจโทวรวัฒน์ ชี้แจงว่า การขอเกษียณก่อนกำหนด เป็นไปตามโครงการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้นายตำรวจสมัครใจที่จะออกจากราชการก่อนการเกษียณอายุราชการอยู่แล้ว โดยอาจจะได้รับการเลื่อนยศให้สูงขึ้นเป็นกรณีพิเศษหากเข้าเงื่อนไขตามที่กำหนด ซึ่งสอดคล้องกับความใฝ่ฝันของตัวเองที่จะได้เลื่อนเป็นยศพลตำรวจเอกที่เป็นยศสูงสุด จึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้ เพราะ หากตนยังคงรับราชการต่อไปจนเกษียณอายุราชการในปีหน้า ก็จะยังคงอยู่ที่ตำแหน่งผู้บัญชาการ ยศพลตำรวจโทจนอำลาราชการ ทำให้ไม่มีโอกาสได้ครองยศพลตำรวจเอกในชีวิตราชการอีก
จึงขอย้ำว่า การตัดสินใจดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับศึกสองนายพล ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติและไม่เกี่ยวข้องกับ กรณีที่นายกรัฐมนตรีเคยกำชับการทำงานของตำรวจไซเบอร์ในช่วงเวลาที่ผ่านมาแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมาตำรวจไซเบอร์ทำงานในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเต็มที่อยู่แล้ว
มีรายงานข่าวว่า ขณะนี้ ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เริ่มจับตาการกลับมาขอ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และอาจต่อมาด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่อาจพ้นจากคำสั่งให้ออกจากราชการ ตำรวจหลายนาย ที่เคยอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือกลุ่มกลาง บางนายเริ่มหารือกันถึงการขอย้ายไปอยู่ในส่วนที่ปลอดภัย บางส่วนที่อายุถึงมีแนวโน้มว่า จะขอออกก่อนเกษียณ เพราะลำบากใจที่ต้องอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง