สังคม

ดีเอสไอลุยต่อ! คดี 'หมูเถื่อน' ภาค 2 ของกลางตกค้างท่าเรือแหลมฉบัง 460 ตัน

โดย panisa_p

4 มิ.ย. 2567

416 views

กรมสอบสวนคดีพิเศษและอีกหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ตกค้างเกิน 30 วัน ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จำนวนทั้งหมด 17 ตู้ และพบว่าเป็นหมูเถื่อนที่ลักลอบนำเข้าแบบผิดกฎหมาย ขณะที่หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีหมูเถื่อน กรมสอบสวนคดีพิเศษ บอกว่ามีอย่างน้อย 10 บริษัท เกี่ยวข้องกับการนำเข้าสินค้าเถื่อนล็อตนี้ โดยมีบางบริษัทถูกดำเนินคดีจากการนำเข้าหมูเถื่อนชุดก่อนหน้านี้ด้วย



ตู้คอนเทนเนอร์ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเปิดตรวจสอบวันนี้พบว่า บรรจุเนื้อหมูแช่แข็ง มีทั้งส่วนที่เป็นเนื้อสัน เนื้อหนัง เครื่องใน และหมูสาม ชั้น เป็นต้น ทั้งหมดเก็บรักษาอยู่ในท่าเทียบเรือD ภายในท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี



ข่าว 3 มิติ พบว่า ก่อนหน้านี้กรมศุลกากร ตรวจพบสินค้าตกค้างเกินกำหนด 30 วัน มีทั้งหมด 90 ตู้คอนเทนเนอร์ ต่อมาพบว่ามีสินค้าตกค้างเพิ่มอีก 1 ตู้ จึงรวมเป็น 91 ตู้ ซึ่งจำนวน 91 ตู้ นี้ กรมปศุสัตว์พบว่าเป็นซากสัตว์เถื่อน ทั้งเนื้อหมู วัว และตีนไก่ ที่นำเข้าผิดกฎหมายจำนวน 74 ตู้ จึงแจ้งความดำเนินคดีไว้ ที่สถานีตำรวจภูธรแหลมฉบัง ตั้งแต่ปีที่แล้ว จากนั้นนำไปฝังกลบทำลาย จึงเหลือตู้คอนเทนเนอร์รวม 17 ตู้ น้ำหนักรวม 460 ตัน ที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมศุลากร



พันตำรวจตรีณัฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีหมูเถื่อน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่ากรมศุลกากรได้แจ้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้มาตรวจสอบตู้สินค้าตกค้าง เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามี 16 ตู้ ที่เป็นซากหมูทั้งหมด และอีก 1 ตู้ ภายนอกบรรจุเนื้อปลา แต่เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า มีเนื้อหมูซุกซ่อนมาด้วย หลังจากเปิดตรวจ สอบแล้ว พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะบันทึกตรวจนับของกลาง พร้อมสอบปากคำเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเพิ่ม เพื่อประกอบการสืบสวนเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง จากนั้นจะส่งมอบของกลางให้กรมศุลกากร และกรมปศุสัตว์นำไปทำลาย



พันตำรวจตรีณัฐพลยังระบุว่าสินค้าตกค้างชุดนี้ มีบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าทั้งหมด 10 บริษัท ในจำนวนนี้มี 5 บริษัท ถูกดำเนินคดีในกรณีนำเข้าหมูเถื่อนก่อนหน้านี้ และอีก 5 บริษัทที่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีการลักลอบมาก่อนหน้านี้หรือไม่ ส่วนกรณี 74 ตู้ คอนเทนเนอร์ ที่ถูกฝังกลบทำลายไปแล้วนั้น หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีของดีเอสไอระบุว่า กรณีดังกล่าวกรมปศุสัตว์ แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สภ.แหลมฉบังแล้ว แต่ดีเอสไอ ไม่ทราบว่าได้เก็บหลักฐานไว้ครบถ้วนก่อนจะฝังกลบหรือไม่



ขณะที่นายอานัน ไตรเดชาพงศ์ ที่ปรึกษาด้านวิชาการ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ซึ่งไปร่วมสังเกตุการณ์ด้วย เรียกร้องให้ดีเอสไอ ขยายผลไปตรวจสอบกลุ่มที่ลักลอบนำเข้า เนื้อสัตว์เถื่อนโดยใช้ช่องทางเขตปลอดอากรด้วย เพราะเป็นกลุ่มหลบเลี่ยงโดยอ้างสิทธิพิเศษไม่ต้องเสียภาษี และหากมองสถานการณ์ปัจจุบัน จะถือว่าเป็นภัยมากว่ากลุ่มที่ ลักลอบนำเข้ามาโดยผิดกฎหมายด้วยซ้ำ และจากข้อมูลพบว่ามีมูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท



สำหรับกรณีที่ดีเอสไอ สอบสวนเอาผิดผู้เกี่ยวข้องกับการนำเข้าหมู่เถื่อนก่อนหน้านี้ พบว่ามีสำนวนที่เจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องจำนวน 10 สำนวน ตอนนี้สำนวนแล้วเสร็จและส่ง ป.ป.ช.แล้ว 6 สำนวน ส่วนอีก 4 สำนวน อยู่ระหว่างดำเนินการ นอกจากนี้ ในคดีพิเศษที่ 126/2566 กรณีพบการนำเข้าโดยสำแดงเป็นปลา จำนวน 2,388 ตู้คอนเทนเนอร์ เบื้องต้นพบแล้ว 20 ตู้ ที่เป็นหมูแช่แข็ง และดีเอสไอกำลังขยายผลที่เหลือ



นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอจะเดินทางไปประเทศต้นทาง ของการนำเข้าเนื้อหมูดังกล่าว รวม 7 ประเทศ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะการหาข้อมูลจากประเทศบราซิล ที่พบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารเพื่อนำเข้าเนื้อหมูมากที่สุด

คุณอาจสนใจ