'แป้ง นาโหนด' ยันไม่คิดหนีอีก เชื่อมั่นจะได้รับความเป็นธรรมในคดี

ก่อนเดินทางออกจากสนามบินจาการ์ต้า ตำรวจอินโดนีเซีย นำตัวนายเชาวลิต ทองด้วง หรือแป้ง นาโหนด มาแถลงข่าวการนำตัวส่งกลับประเทศไทย ขณะที่นายเชาวลิต ยืนยันว่าไม่คิดหนีอีกแล้ว และเชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรม



ตำรวจสากล Interpol อินโดนีเซีย นำตัวนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด ผู้ต้องหารายสำคัญของไทย ซึ่งถูกจับกุมตัวได้ที่เกาะบาหลี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม มาที่สถานีตำรวจสนาบิน Soekanrno Hatta กรุงจาการ์ต้า เพื่อทำการตรวจสุขภาพและยืนยันตัวตน



นายเชาวลิต ในชุดเสื้อผู้ต้องขังสีส้ม หมายเลข 052 กางเกงขายาว รองเท้าแตะสีเขียว ได้รับการตรวจร่างกาย โดยมี พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร ภาค 9 และตำรวจ จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นตัวแทนฝ่ายไทยในการยืนยันตัวตนว่าใช่ นายเชาวลิต ทองด้วงตัวจริง และนายเชาวลิต ได้ตอบคำถามเพียงสั้นๆ ว่าสบายดี



หลังจากนั้นมีการนำตัวออกมาและมีการกล่าวอ้างว่าแหวนเพชรหายที่บาหลี โดยไม่ตอบคำถามใดๆ ในขณะที่ตำรวจอินโดนีเซีย ยืนยันว่าได้ส่งมอบสิ่งของที่ยึดมาจากนายเชาวลิตทั้งหมดแล้ว ไม่มีอะไรสูญหายอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง



จากนั้นตำรวจอินโดนีเซียมีการนำตัวนายเชาวลิต มาร่วมแถลงข่าว ที่ห้องรับรองพิเศษ Saphire Lounge Soekarno-Hatta Airport โดย พลตำรวจโท Krishna Murti (คริสน่า มูลตี) หัวหน้ากองวิเทศสัมพันธ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อินโดนีเซีย ยืนยันว่า อินโดนีเซีย ดำเนินการแจ้งข้อหาหลบหนีเข้าเมือง และปลอมแปลงเอกสาร จึงให้เนรเทศกลับประเทศไทย และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอินโดนีเซีย ส่งมอบเอกสารการเดินทางให้ พ.ต.อ.สมพงษ์ ในฐานะตัวแทนตำรวจไทย



โดยระหว่างนั้นนายเชาวลิต ที่ถูกใส่กุญแจมือและเท้า ยืนร่วมแถลงข่าว ซึ่งในอินโดนีเซียตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวได้ และยืนยันตัวตนว่าทำการส่งตัวนายเชาวลิต ตัวจริงกลับประเทศไทย



นายเชาวลิต ตอบคำถามนักข่าวไทยเพียงสั้นๆ ว่า ไม่คิดจะหนีแล้ว และเชื่อว่า จะได้รับความเป็นธรรม เพราะพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรมรับปากแล้ว



หลังจากนั้นมีการนำตัวนายเชาวลิต ไปขึ้นเครื่องบิน ซึ่งเป็นเครื่องบินเช่าเหมาลำ ออกเดินทางไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยในเครื่องบินมีผู้โดยสาร 10 คน เป็นตำรวจสากลInterpol อินโดนีเซีย จำนวน 9 คน และนายเชาวลิต 1 คน โดยไม่มีตำรวจไทยเดินทางไปด้วยเพราะเป็นระเบียบปฏิบัติของอินโดนีเซีย และจะมีพันตำรวจเอก ออดี้ ซอนนี่ ลาตูเฮรู หัวหน้าแผนกอาชญากรรมระหว่างประเทศ ตำรวจสากลอินโดนีเซีย เดินทางไปร่วมประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทย เพื่อประสานงานในการทำงานร่วมกันต่อไปด้วย