สังคม

กองปราบฯ ร่วม FBI ทลายองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก พบเรียกค่าไถ่-แฮกระบบ กว่า 190 ประเทศ

โดย panwilai_c

1 มิ.ย. 2567

134 views

คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือไซเบอร์ กลายเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ที่ประชาชนและรัฐ ต้องรับมือกับการถูกอาชญากรเหล่านี้คุกคามในหลายรูปแบบ ล่าสุดตำรวจสอบสวนกลาง ของไทย ได้รับการประสานความร่วมมือกับ FBI เปิดปฏิบัติการทลายองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก ก่อเหตุโจมตีระบบองค์การใหญ่ เรียกค่าไถ่ พ่วงแฮกระบบสวมรอยรับเงินสวัสดิการรัฐ เสียหายกว่า 190 ประเทศ



สืบเนื่องจากทางการสหรัฐอเมริกา ขอความร่วมมือระหว่างประเทศ เรื่องการดำเนินการทางอาญา เพื่อจับกุมและทลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ โดยทำหนังสือส่งผ่านสำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะผู้ประสานงานกลาง ก่อนจะมีการมอบหมายต่อมายังตำรวจสอบสวนกลาง ขอให้ประเทศไทยตรวจสอบและหาพยานหลักฐานของนาย Yun He พร้อมพวก ซึ่งเป็นผู้ต้องหา อาชญากรออนไลน์ระดับชาติ โดยเป็นผู้ต้องหาในคดี ทำให้เกิดความเสียหายแก่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการป้องกัน ฉ้อโกงผ่านการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ และฟอกเงินแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา



ทางการสหรัฐอเมริกา แจ้งว่า ปฏิบัติการนี้เป็นการทำงานร่วมมือในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยและสิงค์โปร์ ในการกวาดล้าง ปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งใช้อุปกรณ์ติดตั้งมัลแวร์ ร่วมกับเครื่องมือปกปิดที่อยู่ของเครือข่ายอาชญากร ซึ่งเรียกกันว่า 911 S5 ซึ่งผู้ต้องหาในคดีนี้คือนาย Yun He พร้อมพวกคนจีน โดยเฉพาะนาย Yun He เป็นผู้ก่อตั้งและดูแลระบบหลักของ 911 S5 ทั้งหมด



ขณะที่พวกที่เหลือทำหน้าที่ดูแลเอกสาร ธุรกรรมทางเงิน และตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อทำการฟอกเงิน จำนวน 3 บริษัท อยู่ในประเทศไทย



​จากการสืบสวนพบว่าเครือข่ายนี้ได้ทำการแฮก IP Address ของคอมพิวเตอร์ 19 ล้านเครื่อง ในกว่า 190 ประเทศทั่วโลก สร้างความเสียหายมหาศาล และยังมีการโกงเงินจากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอีกจำนวนมาก ด้วยการแฮกเข้าคอมพิวเตอร์ของชาวอเมริกัน



และทำเรื่องขอความช่วยเหลือในเรื่องสวัสดิการต่างๆ แต่เมื่อหน่วยงานรัฐอนุมัติเงินช่วยเหลือ กลับเป็นการโอนเข้าบัญชีของอาชญากร โดยที่บุคคลชาวอเมริกันคนนั้นกลับไม่ทราบเรื่องและไม่ได้รับเงินดังกล่าวแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังมีการแฮกเข้าไปขโมยเงิน เหรียญคริปโต โจมตีทางไซเบอร์ เรียกค่าไถ่ (Ransomeware) ด้วยการปิดกั้นการทำงานขอองค์กรใหญ่ และเรียกค่าไถ่แลกกับการให้ระบบกลับมาใช้งานได้ดังเดิม และยังใช้เป็นช่องทางแสวงหาผลประโยชน์จากภาพอนาจารของเด็ก รวมไปถึงการขู่วางระเบิด สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนอีกด้วย



ขณะเดียวกันคนร้ายกลุ่มนี้ ได้ทำการฟอกเงินที่ได้จากกิจการ ซึ่งกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ ได้กำไรหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐจากการบริการผิดกฎหมายและนำไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ ยานพาหนะ ทรัพย์สินอื่น ๆ ในหลายประเทศ หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย



ทำให้พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมโดยด่วน มอบหมายให้ กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม ทำการตรวจค้นที่อยู่อาศัย ยานพาหนะของนาย Yun He พร้อมทั้ง ตรวจยึด อายัดทรัพย์สินตามรายการที่ปรากฎตามหนังสือขอความร่วมมือ รวมทั้งสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด



ตำรวจกองกำกับการ 2 กองปราบปราม จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจค้นส เป้าหมายสำคัญ 4 จุด ที่ อำเภอบางละมุงและสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ร่วมกันตรวจยึดของกลาง ได้จำนวนมาก ทั้ง เงินสด สกุลเงินไทยและต่างประเทศ พร้อมทรัพย์สินอีกหลายรายการ



นอกจากนี้ยังสืบทราบว่า ผู้ต้องหามีการนำทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดมาแปรสภาพทรัพย์ในประเทศไทย เป็นลักษณะอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ได้รับรายงานว่าตำรวจของประเทศสิงค์โปร และเจ้าหน้าที่ FBI ได้ร่วมกันจับกุม Mr. Yun He ได้ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา

คุณอาจสนใจ

Related News