ล้างบางเครือข่ายนอมินีต่างชาติ ถือครองที่ดินในภูเก็ต พบร่วมคนไทยเปิดบริษัทกว่า 800 แห่ง

ตำรวจสอบสวนกลางล้างบางเครือข่ายนอมินีต่างชาติในภูเก็ต เข้าตรวจค้นบริษัทของคนไทย พบเอกสารการจดทะเบียนเปิดบริษัทร่วม 800 แห่ง ตรายางกว่า1,000 อัน ให้ชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวรัสเซีย ที่ต้องการถือครองที่ดินในประเทศไทย รวมมูลค่ากว่าพันล้านบาท



ตำรวจสอบสวนกลางโดยตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เข้าตรวจค้นบริษัทของนางสาวตรีทิพย์ ซึ่งพบเอกสารการจดทะเบียนเปิดบริษัทร่วม 800 แห่ง ตรายางบริษัทกว่า 1 พันอัน อำนวยความสะดวกให้กับชาวต่างชาติ



โดยเฉพาะชาวรัสเซีย ที่ต้องการถือครองทรัพย์สินในประเทศไทย โดยบริษัทที่จดทะเบียนขึ้นส่วนหนึ่งไม่ได้ประกอบกิจการจริง และส่วนหนึ่งประกอบกิจการที่ไม่ได้รับอนุญาตเช่นบริษัทนำเที่ยวในไทย



จากการตรวจสอบพบมีชาวรัสเซียมาเปิดบริษัทมากที่สุดถึง 135 บริษัท โดยเฉพาะบริษัทของนางยาน่า อายุ45 ปี ครอบครองที่ดินบ้านพักตากอากาศหลายแปลงรวม 24 ไร่ และคอนโดถึง แห่ง 196 แห่ง โดยมี นส ตรีทิพย์ ใช้ชื่อเครือญาติร่วมเปิดบริษัทในนามนิติบุคคล ร่วมกับต่างชาติจนถือครองที่ดินได้



ปฏิบัติการนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ตำรวจสอบสวนกลางตรวจสอบการเปิดบริษัทอำพรางของต่างชาติทั้งซื้อขายที่ดิน ไปจนถึงเปิดบริษัทแย่งงานคนไทยโดยผิดกฎหมาย พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระดมทีมตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ นับ50 นาย ลงตรวจสอบบริษัทนอมินีที่สร้างความเสียหายต่อประเทศจนพบต่างชาติจนออกหมายจับได้มากถคง 231 ราย ทั้งบุคคลและนิติบุคล



ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจกล่าวว่า การเปิดบริษัทของชาวต่างชาติทำให้ขอ working permit อยู่ในไทยได้ สามารถเปิดบัญชีทำธุรกรรมการเงิน จนนำไปสู่การลักลอบฟอกเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์อีกทอด



โดยปฏิบัติการครั้งนี้สามารถยึดทรัพย์ได้ร่วม 1500 ล้านบาท เป็นทรัพย์สินที่ต่างชาติถือครองร่วม 900 ล้านบาท และคนไทยร่วมเปิดบริษัท กว่า 380 ล้านบาท



ซึ่งตำรวจได้เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายนอมินีต่างชาติในภูเก็ตมารับทราบข้อกล่าวหา 231 ราย แบ่งเป็นนิติบุคคล 96 ราย บุคคล 135 ราย เป็นผู้ต้องหาชาวต่างชาติ จำนวน 98 ราย นับเป็นการเปิดปฏิบัติการกวาดล้างอย่างจริงจังครั้งใหญ่ที่ออกหมายจับได้มากที่สุด