ชาวบ้านกังวลผลสำรวจยาเสพติดพบจังหวัด ระบุไร้ผู้ค้า-ผู้เสพ ตั้งคำถามสำรวจจริงหรือไม่?

จากผลสำรวจสภาพปัญหาในระดับหมู่บ้าน และชุมชน ทั่วประเทศ พบ 1 จังหวัดที่รายงานว่าไม่พบผู้ค้า และผู้เสพ ส่วนหลายพื้นที่ ซึ่งมีการปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นพื้นที่ซึ่งมีการระบาดของยาเสพติดสูง จนเป็นที่วิพากวิจารณ์ของชาวบ้านว่า เป็นการสำรวจข้อมูลที่ตรงกับสภาพความเป็นจริงหรือไม่ หรือเจ้าหน้าที่มีการตบแต่งตัวเลขเพื่อไม่ให้ถูกมองว่าในพื้นที่มีปัญหา



จากคำสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ให้จังหวัดที่ได้รับรายงานว่ามีการระบาดของยาเสพติด เร่งแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเร่งด่วน



แต่จากรายงานผลการประเมินสภาพปัญหาการระบาดของยาเสพติดในหลายจังหวัดของแต่ละอำเภอ ที่ส่งรายงานไปยัง ป.ป.ส. ทำให้จังหวัดที่เปิดยุทธการปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง



กลายเป็นจังหวัดที่มีการระบาดของยาเสพติดสูง ถูกระบุว่าเป็น 25 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง ทั้ง กรุงเทพมหานคร ลพบุรี ชลบุรี นครราชสีมา และภาค 4 ทั้ง12 จังหวัด ภาคเหนือมีเพียง จ.เชียงใหม่ 1 จังหวัด ภาคกลางมีเพียง จ.นครสวรรค์ ภาคใต้ มี จ.นครศรีธรรมราช



จึงเป็นที่กังขาว่ารายงานผลการประเมินวัดจากการระบาดของยาเสพติด ตรงตามข้อเท็จจริงหรือไม่ โดยจากผลการสำรวจสภาพปัญหาระดับหมู่บ้านและชุมชน พบว่า จ.ตาก มีผู้ค้าและผู้เสพ เป็นศูนย์



แต่อาจสวนทางกับผลการจับกุมกลุ่มเครือข่ายผู้ลำเลียงยาเสพติด และนำมาพักไว้ที่โกดังใน จ.ตาก โดยจับได้ล็อตใหญ่ ทำให้เห็นว่ายังมีปัญหายาเสพติดเกิดขึ้นในพื้นที่ ทั้งผู้ไปรับจ้างลำเลียง หรือผู้จำหน่าย อีกทั้งผู้เสพ โดยมีชาวบ้านให้ข้อมูลว่า ยังมีทั้งผู้ค้า และผู้เสพยาเสพติดอยู่ในพื้นที่ แม้ว่าจะหันไปรับจ้างขนชาวเมียนมา เข้าประเทศ แต่ยาเสพติดก็ยังมีการระเบิด อยู่เพราะเป็นพื้นที่ติดแนวชายแดน



ขณะที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งผลสำรวจ จาก 1556 ชุมชน พบชุมชนที่ไม่มีปัญหายาเสพติด 1245 ชุมชน มีชุมชนที่ระบาด 311 ชุมชน กลายเป็นที่สงสัยของชาวบ้านว่าเป็นข้อมูลที่ลงมาสำรวจจริงหรือไม่



รายงานผลการสำรวจ สภาพปัญหายาเสพติด พบว่าเป็นการรายงานของผู้นำชุมชน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น รายงานต่อนายอำเภอ เพื่อรายงานต่อไป



ยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. เพื่อรายงานผลต่อรัฐบาล จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าตบแต่งตัวเลข เพื่อไม่ให้เป็นพื้นที่ ถูกเพ็งเล็งหรือไม่