ขอนแก่นเปิดศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติด ได้ผลดี จากคลุ้มคลั่งจนกลับไปอยู่บ้านได้

การระบาดของยาเสพติด ที่พบว่ามีการนำเข้ามาในประเทศจำนวนหลายร้อยตันต่อปี จนรัฐบาลให้มีการเอ็กซเรย์สำรวจผู้ค้าและผู้เสพในทุกจังหวัด และล่าสุดมีผลสำรวจออกมาว่าพบหมู่บ้านที่ไม่มีการระบาดของยาเสพติดในหลายจังหวัด สร้างความวิตกให้กับชาวบ้านในพื้นที่ เพราะเกรงว่าปัญหาจะรุนแรงขึ้น ขณะที่จังหวัดขอนแก่นซึ่งยอมรับว่ายังมีปัญหายาเสพติดอยู่ทุกชุมชน จึงเร่งหาทางแก้ไขปัญหาเพื่อลดตัวเลขของผู้ค้าและผู้เสพให้ได้



จากรายงานผลการสำรวจสภาพปัญหายาเสพติดในแต่ละจังหวัดเพื่อส่งผลประเมินให้กับ ป.ป.ส. โดยล่าสุดมีข้อมูลชุมชนที่ไม่มีการระบาดของยาเสพติด ภาคกลาง

มีจังหวัดพระนครศรีอยุธยาพบ 1245 ชุมชน จาก 1556 ชุมชน และสระบุรี 995 ชุมชนจาก 1159 ชุมชน



ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มี 3333 จาก 3900 ชุมชน ในจังหวัดนครราชสีมาไม่มีปัญหายาเสพติด จังหวัดบุรีรัมย์ 2049 จาก 2587 ชุมชน อุดรธานี 1652 จาก 2048 ชุมชน ร้อยเอ็ด 1964 จาก 2467 ชุมชน ส่วนภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ไม่มีปัญหายาเสพติดกว่า 1700 จาก 2188 ชุมชน เชียงรายกว่า 1400 จาก 1828ชุมชน ส่วนภาคใต้ จังหวัดสงขลากว่า 700 จาก 1308 ชุมชน ไม่พบปัญหา จังหวัดนราธิวาสกว่า 488 จาก 666 ชุมชน นครศรีธรรมราชกว่า 786 จาก 1663 ชุมชน ที่ปลอดภัยไม่พบการระบาด



ทำให้มีเสียงสะท้อนกลับมาว่าตัวเลข ที่ประเมินเป็นไปตามสภาความเป็นจริงหรือไม่ และหากไม่พบการระบาดของยาเสพติดนั่นหมายถึงไม่พบผู้เสพอยู่ในชุมชนเลย



ขณะที่จังหวัดขอนแก่นซึ่งได้รายงานผลการสำรวจว่ายังพบการระบาดของยาเสพติดในทุกชุมชน ไม่มีชุมชนไหนที่ปลอดยา เมื่อเปิดยุทธการพิทักษ์ขอนแก่นจับผู้ค้าแล้ว ได้เร่งแก้ไขปัญหาผู้เสพไปพร้อมกัน โดยเปิดศูนย์พักคอยผู้ป่วยติดยาเสพติด หรือ CI ทั้ง 26 อำเภอ ซึ่งที่ อ.น้ำพอง ได้นำผู้เสพคลุ้มคลั่งมาอยู่ในความควบคุมของนายอำเภอ หลังจากรพ.ธัญญารักษ์ขอนแก่น รองรับไม่พอ



โดยมารดาของผู้เสพรายหนึ่ง ระบายว่าเหมือนได้ชีวิตใหม่ จากต้องหนีออกจากบ้านไป 6 ปี เพราะลูกชายพาเพื่อนมามั่วสุมเสพยาที่บ้าน และอาละวาดหนัก แต่เมื่อมีโครงการนี้ลูกชาย ที่เสพหนักจนคุ้มคลั่งเสียสติ เริ่มมีอาการสงบลง จนกล้ากลับเข้ามาอยู่ในบ้าน



ซึ่งผู้เสพที่เข้ามาอยู่ในศูนย์ CI มีตั้งแต่อายุ 13 ปี จนถึง 60 ปี แต่ละคนจะได้รับยารักษาตามที่แพทย์สั่ง มีการออกกำลังกาย และมีกิจกรรมปลูกผัก หลายคนอาการดีขึ้น



เปรียบเทียบภาพจากวันแรก และปัจจุบัน ผู้เสพยอมรับว่าเป็นคนใหม่ แทบจะกลับไปรับสภาพตอนเสพไม่ได้ หลายคนเปลี่ยนพฤติกรรมคนเสพ จนทำงานเป็นผู้ช่วยเหลืองานของเจ้าหน้าที่ได้และดูแลผู้เสพ



อีกทั้งยังมีการสุ่มตรวจข้าราชการ ผู้นำองค์การปกครองท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งตัวของผู้ว่าฯด้วย โดยปีที่ผ่านมาตรวจไปแล้วกว่า 22,000 คน พบผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมากกว่า 90 คน ได้มีการลงโทษด้วยการให้ออกจากตำแหน่งทันที และในปีนี้มีการตรวจปัสสาวะไปแล้ว 10,000 คน พบผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจำนวน 57 คน เบื้องต้นอยู่ในระหว่างดำเนินการเอาผิดทางวินัย และเตรียมให้พ้นจากตำแหน่งเช่นกัน