สังคม

จนท.อุตสาหกรรม ตรวจสอบกากแคดเมียม ไม่พบการศึกษาขั้นตอนการขุดและลำเลียงอย่างถูกต้อง

โดย parichat_p

5 เม.ย. 2567

140 views

ประเด็นว่ากากแคดเมียมหายไปจากระบบกว่า 1 หมื่นตัน เป็นประเด็นสำคัญในตอนนี้ ไม่ต่างจากข้อสงสัยว่ากากแคดเมียนที่ถูกปรับเสถียรลดอันตรายและฝังกลบถาวรแล้ว เหตุใดยังถูกขุดขึ้นมา และการขุดรวมถึงลำเลียงมานั้นถูกต้องตามหลักวิชาการ หรือศึกษาผลกระทบรอบด้านแล้วหรือไม่ นี่ก็เป็นคำถามสำคัญเช่นกัน เพราะทั้งข้อมูลที่กรรมาธิการการอุตสาหกรรมได้รับ และที่เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดตากไปตรวจสอบนั้น ไม่พบว่ามีการศึกษาขั้นตอนในการขุด และลำเลียงอย่างถูกต้องแต่อย่างใด


นี่คือหลุมฝังกลบกากแคดเมียมและสังกะสี ภายในเหมืองหรือโรงงานถลุงแร่สังกะสีของบริษัทผาแดง อินดัสทรี่ อำเภอเมือง จ.ตาก ซึ่งปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2559 และตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทเบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด กากเหล่านี้ผ่านการปรับเสถียรและอยู่ในหลุมฝังกลบแบบซีเคียว แลนฟ์ฟิว หรือโบกปูนทับ แบบฝังตลอดชีพ ตามรายงาน EIA


แต่นี้คือภาพที่เจ้าหน้าที่เข้าไปพบบ่อที่ 5 จากจำนวน 7 บ่อ ของที่นี่ถูกขุดขึ้นมาโดยรถแบ็คโฮ จนบ่อที่ ถูกขุดขึ้นทั้งหมดแล้วกลายเป็นบ่อลึกลงไปอีก และบ่อนี้คือจำนวนที่ขอยนย้ายออกไปรวม 15,000 พันตัน


เจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่า หลุมที่ 5 ถูกกำหนดจะขนย้ายไปเมื่อปีที่แล้ว ไปใช้ประโยชน์ ที่บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ซึ่งก็คือที่สมุทรสาคร ที่สำคัญ ยังมีแผนว่าปี2567 ถึง 2568 จะขุดบ่อที่ 12346 และ 7 ออกไปใช้ประโยชน์ที่ บ.เจ แอนด์ บี เมททอลนี้ด้วย


อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดโปงขึ้นว่ามีขั้นตอนที่ผิดปกติ และมีการตรวจสอบทั้งจากตำรวจปทส. และกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ทำให้อุตสาหกรรม จังหวัด ตากสั่งให้บริษัทเบาด์ แอนด์ บียอนด์ ยุติการส่งกากแคดเมียมไปที่สมุทรสาคร และอายัดกากที่เหลือที่รอการเคลื่อนย้ายออกไปไว้ก่อน


หลังจากเกิดประเด็นขึ้น อุตสาหกรรมจังหวัดตาก ชี้แจงว่ากระบวนการพิจารณาอนุญาต เป็นไปตามคู่มือของกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นการอนุญาตในระบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยบริท เจ แอนด์ บีเป็นผู้ยื่นขอ แจ้งว่าเป็นปฏิกูลและมีธาตุ 18 ธาตุ และแจ้งว่าต้องการนำไปบดอัด ซึ่งโรงงานปลายทางก็มีเครื่องบดอัด จึงเห็นว่าสอดคล้องกันอย่างไม่มีพิรุธ จึงอนุญาตได้ โดยการกำกับตลอดเส้นทาง


อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยวันนี้ ยืนยันว่าการขอและการอนุญาตคลุมเคลือ เช่นไม่แจ้งชนิดของกากแร่ ซึ่งมีส่วนสำคัญว่าเป็นกาก ที่ฝังกลบแล้ว อีกทั้งการจะขุดขึ้นมาต้องผ่านการศึกษาอย่างรอบด้านด้วย แต่กรณีนี้ไม่รายงานเช่นนั้นเลย


นอกนี้หากยึดตามเส้นทางของผลิตภัณฑ์แล้ว ถือว่าไม่ชัดเจน เพราะแม้จะบอกว่าต้นทางต้องการนำมาบดอัด และปลายทางมีเครื่องบดอัด แต่ไม่บอกละเอียดว่า บดอัดแล้ว จะได้ผลิตภัณฑ์อะไร และส่งไปไหน อีกทั้งยังไม่พบการบอดอัดที่นี่แม้ว่าจะขนย้ายมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม และที่นี่ต่อให้มีเตาหลอม แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้หลอม แคดเมียม เพราะขั้นตอนการหลอมต่างกัน ดังนั้นปริศนาว่าปลายทางของแคดเมียมจะไปไหน และของที่หายไปจากระบบกว่าหมื่นตันตอนนี้อยู่ที่ใด ก็เป็นที่น่าสงสัย ผู้บังคับการตำรวจ ปทส.ระบุว่าตำรวจแกะรอยการขนย้ายมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว จนได้หลักฐานมาพอ ตอนนี้กำลังแกะรอยเพิ่มเติมว่าจะลำเลียงไปที่ใดบ้าง


ทางสืบสวนยังไม่ทราบวัตถุประสงคืว่าบริษัทขนออกมาเพื่อขาย หรือเพื่อกำจัด เพราะในเมื่อมันถูกฝังกลบตามระบบของมันแล้ว มันไม่ควรต้องขุดขึ้นมาอีก แต่เขาให้เหตุผลว่าตัวที่อยู่ในการฝังกลบนั้น เป็นกาก สิ่งปฎิกูล ซึ่งทำประโยชน์ได้ ตรงนี้มีการวิเคราะห์หรือยังว่ามีสารอะไร เจือปนอะไร แต่มีการขออนุญาตไปอุตสาหกรรม จ.ตาก เพื่อจะเอาสิ่งปฎิกูลนี้ไปใช้ประโยชน์ ก็ขอตั้งแต่ปี 2566 บริษัทต้นทางก็เลยได้รับอนุญาต (ใครเป็นคนขน....) แต่การจะเอาสารนี้มาต้องวิเคราะห์ก่อนว่าเป็นสารประเภทใด และต้องปฎิบัิตาม EIA หรือขอบเขตระเบียบทุกอย่างก่อนถึงจะขนย้ายได้ แต่เท่าที่ฟัีงจากการประชุม ยังไม่มี EIA เรื่องนี้


ล่าสุด ศาลจังหวัดสมุทรสาครอนุมัติหมายค้นให้ตำรวจปทส.ไปค้นหาหลักฐานการขนย้ายเข้าออก ในโรงงานเจ แอนด์ บี สมุทรสาคร โดยมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้หลักฐาน และเซฟเวอร์กล้องวงจรปิดมาแล้ว เพื่อนำมาเปิดดูภาพการเคลื่อนย้ายเทียบเคียงกับบันทึกในระบบคอมพิวเตอร์


ข่าว 3 มิติ ยังได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่า พนักงานในโรงงานให้การเป็นประโยชน์ว่า มีแคดเมียมบางส่วนที่เมื่อเข้ามาที่โกดังแล้ว ถูกขนย้ายออกไปที่อื่นด้วน ส่วนจะเป็นทีใดนั้น พนักงานไม่ทราบ ประเด็นนี้ตำรวจ ปทส.กำลังแกะรอยเพิ่มเติม

คุณอาจสนใจ

Related News