รมว. สั่งย้ายกากอุตสาหกรรม จ.ตากออกนอกพื้นที่ พร้อมเร่งหากากแคดเมียม หาย 1 หมื่นตัน

กรณีกากอุตสาหกรรมแคดเมียม และกากสังกะสี ที่ฝังกลบแบบถาวรในเหมือง ของบริษัท ผาแดง อินดัสทรี หรือชื่อใหม่คือบริษัทเบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด จังหวัดตาก ถูกขุดขึ้นมาแล้วส่งมาที่โรงงานในจังหวัดสมุทรสาคร โดยแจ้งในระบบขออนุญาต และขนส่ง ของกรมโรงงาน อุตสาหกรรม ว่าวัสดุนี้เป็นปฎิกูล ที่ต้องการนำมากำจัดด้วยวิธีบดอัด แต่ไม่บอกว่าปลายทางจะไปที่ใด กรณีนี้สร้างความกังวลต่ออันตรายของผู้คนอย่างมาก ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้สั่งย้ายอุตสาหกรรมจังหวัดตากออกนอกพื้นที่ และสอบสวนการใช้ดุลยพินิจอนุญาตดังกล่าว ที่สำคัญคือให้เร่งติดตามหาว่า กากแคดเมียม ที่หายไปจากระบบกว่า 1 หมื่นตันว่าอยู่ที่ใด


นางสาวพิมภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมเจ้าหน้าที่ในกระทรวงอุตสาหกรรม และรักษาราชการ แทนอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการ เหมืองแร่ รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปตรวจสอบอาคารโรงงานบริษัทเจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด จังหวัดสมุทรสาคร ที่ได้นำกาก อุตสาหกรรมประเภทแคดเมียม และสังกะสี จากจังหวัดตาก มาเก็บไว้ที่นี่ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ต่อมาทั้งตำรวจ ปทส. และกรรมาธิการการอุตสาหกรรม ตรวจสอบพบความผิดปกติว่าอาจย้ายกากอันตรายนี้มาไม่ถูกต้อง


กระทั่งกรมโรงงานอุตสาหกรรม ก็ตรวจสอบพบว่าโรงงงานนี้มีใบอนุญาตลำดับที่ 60 จำนวน 2 ใบ ทำกิจการหลอม ประเภทอลูมีเนียม และมีใบอนุญาตลำดับที 106 ทำกิจการรีไซเคลกากอุตสาหกรรม ซึ่งทั้งสองใบอนุญาตนี้ ไม่สามารถใช้กับกากแคดเมียมได้ จึงถือว่าครอบครองวัตถุอันตรายประเภทที่ 3 ตาม พรบ.วัตถุอันตราย 2535 โดยไม่ได้รับอนุญาต


กรณีดังกล่าว ยังทำให้เกิดข้อสงสัยว่าการกากแคดเมียม ที่ผ่านการถลุงจนเป็นถือเป็นปฎิกูล และถูกปรับเสถียรลดอันตราย ก่อนนำไปฝังกลบอย่างถาวรแล้ว แต่กลับถูกขุดขึ้น มาขาย ใหม่โดยนั้น ได้ผ่านขั้นตอนที่ถูกต้องหรือปลอดภัยหรือไม กรณีเหล่านี้เป็นส่่วนหนึ่งของข้อสงสัยที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมระบุว่าต้องหาคำตอบให้กระจ่าง จึงมีนโยบายให้ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ย้ายอุตสาหกรรมจังหวัดตาก เข้ามาช่วยราชการส่วนกลาง และตั้งกรรมกาารสอบข้อเท็จจริงด้วย


นอกจากสั่งย้ายและตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้ดุลยพินิจแล้ว ยังมีประเด็นสำคัญว่ามีกากแคดเมียมหายไปจากระบบด้วย โดยข่าว 3 มิติ ตรวจสอบล่าสุดจากแหล่งข่าว ที่เป็น ตำรวจได้รับการยืนยันว่า อุตสาหกรรมจังหวัดตาก อนุญาตให้ขนย้ายกากอุตสาหกรรม จำนวน 3 ครั้ง / ครั้งละ 5 พันตัน เท่ากับว่าจะมีกากที่ได้รับอนุญาตขนย้ายรวม 15,000 ตัน ปรากฎข้อมูลในระบบขนย้าย ราว 13,000 ตัน แต่ที่ปรากฎอยู่ในโรงงานนี้ มีอยู่ 2,440 ตัน เท่ากับว่า มีกากแคดเมียมหายไปจากระบบมากกว่า 1 หมื่นตัน จึงต้องหาเร่งหาคำตอบว่าอยู่ที่ใด


อย่างไรก็ตาม ทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเมืองแร่ ยืนยันว่ากากแคดเมียมและสังกะสีดังกล่าว ได้ถูกปรับเสถียรลดอันตรายลงแล้วตั้งแต่ที่ฝังกลบ และตอนนี้ก็กำชับให้เก็บไว้ในอาคารให้มิดชิด ห้ามไม่ให้เข้าสู่กระบวนการหลอมใดๆ และห้ามเข้าทำงานในโรงงานนี้ 90 วัน จึงขอให้มั่นใจว่าไม่กระทบต่อสภาพแวดล้อม และชุมชนรอบข้าง และไม่ได้ประกาศเขตภัยพิบัติ ขณะเดียวกันก็จะเร่งให้ขนย้ายกลับไปจังหวัดตาก โดยให้กรมโรงงาน อุตสาหกรรมและกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ หาวิธีนำกลับไปฝังกลบ ตามขั้นตอนของ EIA ภายใน 15 วัน