เปิดปฏิบัติการปราบแก๊งคอลฯ จ้างกลุ่มชาวบ้าน-คนพิการ เปิดบ.ทิพย์ ตุ๋นเหยื่อสูญรวมกว่า 800 ล้าน

Whoscall เผยรายงานประจำปี 2566 พบมิจฉาชีพหลอกคนไทยเพิ่มขึ้น 12 ล้านครั้ง คนไทยรับ ข้อความ หลอกลวงมากที่สุดในเอเชียถึง 58 ล้านข้อความ และแนบลิงก์ปลอม ล่าสุดตำรวจสอบสวนกลาง ปฏิบัติการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่แอบอ้างเปิดบริษัทนิติบุคคล เพื่อนำบัญชีม้าไปขายให้กับกลุ่มจีนเทา



จากการตรวจค้นในหลายจังหวัดพบว่ามีการจ้าง ชาวบ้าน บางคนพิการ เป็นกลุ่มๆ 4-5 คน ไปเปิดบริษัท โดยพบบ้านที่ใช้เปิดบริษัท มีทั้งเพิงพัก และบ้านร้าง แต่มีเงินหมุนเวียน จากเหยื่อเข้ามาในบัญชี ของบริษัทมากกว่า 800 ล้านบาท



ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจหรือ ปอศ. เข้าตรวจค้นบัญชีม้าที่จดทะเบียนรูปแบบนิติบุคคล ในหลายจังหวัด ทั้งราชบุรี กทม. พิษณุโลก และสมุทรปราการ พบข้อมูลที่น่าตกใจว่า ทั้งที่อยู่ และบุคคล 5 คนที่พากันไปจดทะเบียนเปิดบริษัท เป็นบุคคลทุพพลภาพ



ส่วนบ้านที่เปิดบริษัท เป็นบ้านเพิงพักเก่าๆ และบ้านร้าง จากการเข้าตรวจค้นอย่างน้อย 4 บริษัท ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้อง แต่กลับไม่มีการประกอบกิจการใดตามที่ได้กล่าวอ้าง ว่าเปิดกิจการทัังขายปลีก ขายส่ง อุปกรณ์เครื่องมือราคาแพงล้วนเป็นการอุปโลกขึ้นมา



โดยทั้ง 4 บริษัทที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ที่ตำรวจ ปอศ.เข้าตรวจค้นครั้งนี้ มีผู้เสียหายจำนวนมาก ที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกปลอมเพจคนมีชื่อเสียง ทางด้านการลงทุน และส่งลิงก์ แอป nicshare ปลอมให้เหยื่อพบเงินที่เหยื่อ โอนบัญชีนิติบุคคลถึงกว่า 800 ล้านบาท



พ.ต.อ ธีรภาส ยั่งยืน ผกก3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรม ทางเศรษฐกิจ กล่าวว่า จากการจับนายก๊กชาวจีน สัญชาติมาเลเซียได้ พบว่านายก๊กเป็นคนคิดชื่อบริษัทจ้างนายหน้าคนไทย ให้หาคนไปเปิดบัญชีม้านิติบุคคล เพื่อจะได้ไม่ต้องสแกนหน้า และโอนได้ครั้งละกว่า 10 ล้านบาท อีกทั้งน่าเชื่อถือ เพราะเป็นบัญชีนิติบุคคล ที่จดทะเบียนจริง แต่เบื้องหลังไม่มีธุรกิจจริง



ขณะที่ตำรวจ ปอศ.ยังได้เข้าค้นทาวโฮมหลังหนึ่งย่าน จ.นนทบุรี พบมีหญิงสัญชาติลาว เป็นผู้มาเช่า จากการตรวจค้นมีลักษณะเป็นออฟฟิศ ที่ใช้เก็บซุกซ่อนบัญชีม้า จำนวนมาก มีทั้งซิมโทรศัพท์ สมุดบัญชี โดยหญิงชาวลาวอ้างว่าจะนำบัญชีม้า และซิมโทรศัพท์ไปให้กับกลุ่มพนันออนไลน์ แต่จากหลักฐานเบื้องต้น หญิงชาวลาวเป็นผู้ถือบัญชีม้าแถว 2 ที่รับฟอกเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์



พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการ กองบังคับการการกระทำความผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ระบุว่า เครือข่ายของนายก๊ก และนายลี น่าจะเป็นเครือข่ายใหญ่

โดยนายก๊กน่าจะเป็นผู้จัดการทางด้านการเงิน และฟอกเงิน ส่วนนายลี น่าจะจัดหาบัญชีม้า และอาจทำหน้าที่หลอกลวงเหยื่อด้วย



ถือเป็นอาชญากรข้ามชาติ ซึ่งเข้ามาจ้างคนไทยเปิดบัญชีนิติบุคคลแอบอ้างบริษัททิพย์ โดยคาดว่ายังมีอีก 15 บริษัท ที่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ