'จุลพันธ์' ประกาศไตรมาส 4 ได้แน่ 'เงินดิจิทัล 1 หมื่น' ถึงมือประชาชน

การอภิปรายทั่วไปเพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 โดยสมาชิกวุฒิสภา คาดว่าจะจบลงภายในเที่ยงคืนวันนี้ ขณะที่รัฐบาลประกาศภายในไตรมาสที่ 4 ของปี เงินดิจิตอล 1 หมื่นบาทน่าจะถึงมือประชาชน


นายจุลพันธ์ อมริวัฒน์ รมช.คลัง แถลงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเลต ว่า คณะอนุกรรมการในการเสาะหาความจริงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ได้ดำเนินการใกล้เสร็จแล้ว ได้เตรียมนัดหมายประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ ในวันที่ 10 เมษายน เพื่อ สรุปรายละเอียดโครงการทั้งหมด ส่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบ เดินหน้าโครงการต่อไปและภายไตรมาส 4 ก่อนสิ้นปี จะมีการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ให้ถึงมือประชาชนทุกคน อยู่ในกรอบที่กำหนดไว้


สำหรับเงื่อนไขใช้กรอบเดิม 50 ล้านคน ใช้เงินผ่านแอพลิเคชั่น เป๋าตังค์ แต่มีรายละเอียดเล็กน้อย ที่ต้องรอมติของที่ประชุมก่อน ส่วนการอภิปรายทั่วไปเพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 โดยสมาชิกวุฒิสภา ตั้งแต่ช่วงเช้ามีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุม

นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.ผู้ริเริ่มเสนอญัตติ อภิปรายว่า การยื่นญัตติดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญ เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน และเป็นประโยชน์ต่อการทำงานบริหารประเทศของรัฐบาล แต่การยื่นขออภิปรายดังกล่าวถูกพูดถึงว่าเป็นการซักฟอกรัฐบาล เป็นการที่จะล้มรัฐบาล ทำให้รัฐบาลเสียหาย ซึ่งความคิดเหล่านี้เป็นความคิดที่ผิด

ช่วงหนึ่งนายเสรีกล่าวว่า คนที่ได้รับเงิน 1 หมื่นบาท ถ้าเขาสามารถใช้เงินดังกล่าวได้ ก็ไม่ถึงเดือนก็หมด เงินมหาศาลที่ต้องไปกู้ 5 แสนกว่าล้านบาท ก็ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างที่รัฐบาลต้องการได้ แต่กลายเป็นกระตุ้นความลำบากความยากจนให้ประชาชนมากเพิ่มขึ้น


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลุกขึ้นตอบภิปรายของสมาชิกวุฒิสภาครั้งแรก ในการประชุมหลังนายเสรี สุวรรณภานนท์ลุกขึ้นอภิปรายเปิดอภิปราย ทันทีว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มายืนในสถานที่อันทรงเกียรติที่นี้ และรับฟังความคิดเห็นคำติชมของ สว.ทุกคนพร้อมยืนยันว่า รัฐบาลนี้ภายใต้การนำของตนและรัฐมนตรีทุกคนให้เกียรติกับฝ่ายนิติบัญญัติทั้งสองสภา เพราะเรามีหน้าที่บริหาร แต่เมื่อไหร่ที่ฝ่ายนิติบัญญัติเกิดข้อสงสัยพร้อมเสนอแนะที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เราก็ยินดีมาตอบ พร้อมยืนยันว่า 8-9 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีการอภิปรายมาตรา 153 นี้ แล้วทำไมมาแค่ 7 เดือนถึงมี เพราะเราทราบดีว่ามีหน้าที่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องมาทำงานและตอบคำถามให้ทุกท่านกระจ่าง รวมทั้งได้ชี้แจงเรื่องเดินทางไปต่างประเทศด้วย


ด้านนายถวิล เปลี่ยนศรี สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายโดย ยกคำแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ระบุว่ารัฐบาลจะสร้างความชอบธรรมในกระบวนการยุติธรรม เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และให้เป็นที่ยอมรับนานาประเทศ แต่รัฐบาลปฏิบัติหรือละเว้น สร้างความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรมและหลักยุติธรรมของประเทศในช่วง 6-7 เดือน ไม่เป็นไปตามที่แถลงโดยเฉพาะกรณีที่เด่นชัดที่สุดคือกรณีนายทักษิณ


สำหรับการอภิปรายทั่วไปเพื่อให้คณะรัฐมนตรี แถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 วันนี้มีสมาชิกวุฒิสภาแสดงเจตจำนงอภิปรายรวม 27 คน รวมเวลา 15 ชั่วโมงแบ่งเป็น สว.11ชั่วโมง 30นาที ครม.3 ชั่วโมง ประธานวุฒิสภา 30 นาที และคาดว่าการอภิปรายจะจบลงตอนเที่ยงคืน คืนนี้