สังคม

ฝุ่น PM2.5 กทม.-ปริมณฑล กลับมาพุ่งอีก เชียงใหม่วิกฤต พบผู้ป่วยเพิ่มกว่า 3 หมื่นราย

โดย panwilai_c

21 มี.ค. 2567

44 views

วันนี้ (21 มี.ค. 67) ค่าฝุ่น PM2.5 ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลกลับมาพุ่งสูงเกินมาตรฐานอีกครั้ง หลังพายุฤดูร้อนเพิ่งผ่านพ้นไป ซึ่งตามปกติแล้วค่าฝุ่นจะลดลงหลังจากที่ฝนตกลงมา ซึ่งกรมควบคุมมลพิษ อธิบายว่าเป็นเพราะสภาพอากาศที่ผันผวน จากเพดานการลอยตัวอากาศที่ลดลงต่ำมาก ทำให้อากาศนิ่งและจมตัว



โดยปัญหามลพิษทางอากาศของประเทศไทย ตอนนี้ยังคงเป็นที่น่ากังวล เพราะหลายจังหวัดโดยเฉพาะทางภาคเหนือ ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะต่อสุขภาพของประชาชน ที่ตอนนี้มีรายงานว่า พบผู้ป่วยจาก PM2.5 พุ่งเกินกว่า 30,000 คน แล้ว สูงกว่าปี 2566 เกินเท่าตัว



นี่เป็นตัวอย่างของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหามลพิษทางอากาศจนส่งผลต่อสุขภาพ โดย เด็กคนนี้เป็นเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ที่อาศัยอยู่ในตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่



เธอเพิ่งเข้ารับการรักษากับแพทย์ที่คลินิกแพทย์เด็กในเมืองเชียงใหม่ หลังจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีอาการปวดหัว หายใจลำบากคล้ายเป็นหวัดแต่ไม่มีน้ำมูก รวมถึงมีอาการไข้กับอ่อนเพลียร่วมด้วย นอกจากนี้ยังมีอาการปวดหู และ มีเลือดกำเดาไหล



แพทย์ได้ตรวจวินิจฉัยจนพบว่าเด็กหญิงคนนี้มีอาการโพรงจมูกอักเสบ และลามไปจนถึงอาการหูอักเสบตามมา ซึ่งส่วนหนึ่งเชื่อว่าอาจเกิดจากปัญหาฝุ่น PM2.5 ในจังหวัดเชียงใหม่ที่กินเวลามานานกว่า 2 เดือนแล้ว



ข้อมูลจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า สถานการณ์วิกฤตหมอกควันมลพิษทางอากาศที่เกินค่ามาตรฐานอย่างหนักในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือในตอนนี้ กำลังส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน



โดยช่วงระหว่างวันที่ 1 มกราคม จนถึง 15 มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ด้วยผลกระทบจาก PM2.5 ทั้งสิ้น 30,339 คน มากกว่าจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 1 เท่าตัว โดยในช่วงนี้ของปีที่แล้วมีจำนวนผู้ป่วย 12,671 คนเท่านั้น



ขณะที่ค่าฝุ่น PM2.5 ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในวันนี้ก็กลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง สร้างความสงสัยให้กับหลายคนว่า เพราะเหตุใดฝนที่ตกหนักตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้กลับไม่ทำให้ค่าฝุ่นละอองลดลงแต่อย่างใด และยังสูงเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้มถึง 45 เขต สูงสุดอยู่ที่ 63.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร ที่ จ.สมุทรปราการ



พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่าฝุ่นที่เกิดขึ้นจนทำให้หลายพื้นที่ได้กลิ่นเหมือนกลิ่นไหม้ มาจากจุดความร้อนที่เกิดขึ้นโดยรอบประเทศไทยอย่างหนาแน่น ตามภาพที่ปรากฎจากข้อมูลดาวเทียมของเว็บไซต์ FIRMS จากนาซา



โดยศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กรมควบคุมมลพิษ วิเคราะห์ว่า สาเหตุของฝุ่นในช่วงนี้เกิดจาก สภาพทางอุตุนิยมวิทยาที่ผันผวน ได้แก่ ทิศทางลมเปลี่ยน เพราะเดิมทีเป็นลมพัดพามาจากทางใต้ แต่แนวลมเมื่อคืนนี้พัดพามาจากทางเหนือ เพดานการลอยตัวอากาศที่ลดลงต่ำมาก อากาศนิ่งและจมตัว จึงส่งผลให้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่ออกมาจากแหล่งกำเนิดในพื้นที่สะสม แขวนลอยในอากาศ ไม่สามารถระบายออกจากพื้นที่ได้ โดยคาดการณ์ว่า จะคลี่คลายภายในช่วงระยะเวลา 1-2 วันถัดจากนี้

คุณอาจสนใจ

Related News