สังคม

'ชัยธวัช' รับคดียุบพรรค สู้ยากแต่พร้อมสู้เต็มที่ ปัดตอบตั้งพรรคสำรอง

โดย panwilai_c

13 มี.ค. 2567

29 views

ความเคลื่อนไหวหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีมติเอกฉันท์ส่งเรื่องยุบพรรคก้าวไกลให้ศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ประธาน กกต.ยืนยันว่าได้ใช้เวลาพอสมควรในการทำหน้าที่ ไม่มีใบสั่ง และหลักฐานสำคัญคือ คำวินิจฉัยของศาล ด้านหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่าพรรคพร้อมต่อสู้คดีอย่างเต็มที่โดยขอให้ศาลเปิดการไต่สวนคดี



นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต. เปิดเผยกรณีที่ประชุมกกต. เห็นควร ให้ส่งเรื่องก้าวไกลล้มล้างการปกครองไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกระบวนการพิจารณาเรื่องนี้ ที่ประชุมกกต. ได้ให้สำนักงานกกต.ศึกษาวิเคราะห์ตั้งแต่ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 31 มกราคม ซึ่งเป็นการศึกษาพิจารณาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด จนกระทั่งถึงวันที่ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการเมื่อ 29 กุมภาพันธ์ ก็ใช้เวลาในการพิจารณาเพิ่มเติม และข้อเสนอแนะ จนเป็นที่มาของผลการประชุมกกต.เมื่อวานนี้



เป็นการดำเนินการโดยใช้อำนาจหน้าที่ตามมาตรา 92 ซึ่งใช้คำว่าเมื่อคณะกรรมการกกต. มีหลักฐานอันควรเชื่อว่า มีพรรคใดกระทำการอันควรจะเป็นการล้มล้างการปกครอง ให้เสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา สิ่งที่เป็นหลักฐานอันเชื่อได้ว่า ก็คือ คำวินิจฉัยของศาลนั่นเอง มีรายละเอียด ข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน มีเอกสารประกอบ มีคำไต่สวน มีถ้อยคำของผู้ที่เกี่ยวข้อง ฉะนั้นเราจึงมีเหตุผลที่เชื่อได้ว่า ควรส่งศาลรัฐธรรมนูญ



ทั้งนี้ เมื่อ กกต.มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคก้าวไกล โดยทั่วไปจะใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ ในการจัดทำคำร้องเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเสร็จเมื่อไหร่ก็ยื่นเมื่อนั้น

ส่วนที่ถูกตั้งข้อครหาว่า กกต. มีใบสั่งนั้นนายอิทธิพร ชี้แจงว่าคนที่จะสั่งให้ปฎิบัติหน้าที่คือกฎหมายที่เขียนเอาไว้



ส่วนความคืบหน้าคดียุบพรรคภูมิใจไทย กรณีรับเงินบริจาค บริษัท บุรีเจริญ คอนตรัคชั่น นั้น ประธาน กกต.กล่าวว่าอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบของเท็จจริงและรวบรวบพยานหลักฐานของเลขาฯ กกต. ซึ่งเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง ยังไม่ถึงขั้นที่จะสรุปความเห็นและนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต.



ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการรองรับภายหลัง กกต.มีมติเอกฉันท์ส่งสำนวนคดีล้มล้างการปกครองให้ศาลรัฐธรรมนูญ ว่าเตรียมเรื่องการต่อสู้คดีตามกฎหมาย และทำงานทุกวันให้ดีที่สุด และยอมรับว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอาจจะทำให้ต่อสู้ได้ยากมากกว่าในคดีอื่นๆ แต่ต้องต่อสู้เต็มที่ว่ามันไม่มีเหตุผลเพียงพออย่างไรที่จะต้องมีการวินิจฉัยถึงขั้นยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งโดยปกติศาลต้องไต่สวนอยู่แล้ว



นายชัยธวัชยังกล่าวว่ายังไม่ได้มีการคุยกันเรื่องนี้ในพรรค แต่คิดว่าบทเรียนที่สำคัญน่าจะเป็นบทเรียนสำหรับสังคมไทยและผู้มีอำนาจมากกว่า ว่าการยุบพรรคการเมือง ไม่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาทางการเมืองแต่อย่างใด ซ้ำร้ายอาจจะนำไปสู่การขยายความขัดแย้งทางการเมืองได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งสวนทางกับการคาดหวังของพี่น้องประชาชนหลังจากที่เรามีรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการรัฐประหารแล้ว



ส่วนกระแสการตั้งพรรคสำรอง นายชัยธวัช กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในขั้นต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ก่อน

คุณอาจสนใจ

Related News