สังคม

บุกค้นโรงงานสารเคมีอันตรายสุพรรณฯ ไร้ใบอนุญาต ทำปนเปื้อนธรรมชาติ จ่อเอาผิดทั้งขบวนการ

โดย panwilai_c

28 ก.พ. 2567

6.9K views

กรมโรงงานอุตสาหกรรม พบเบาะแสว่า มีโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่าจ้างให้บริษัทรับกำจัดจากเคมีอุตสาหกรรม นำกากอุตสาหกรรมไปกำจัด แต่บริษัทที่รับจ้าง กลับนำไปขายต่อให้ประชาชนรายหนึ่ง ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อไปสกัดเอาทองแดง อย่างไม่ถูกวิธี เกิดอันตรายต่อคนและสิ่งแวดล้อม โดยสถานประกอบการนี้ไม่มีใบอนุญาตใดๆเลย ขณะที่เจ้าของสารภาพว่า มีกลุ่มคนจีนมาชักชวนให้สกัดทองแดง เพื่อนำไปขายให้กลุ่มคนจีนอีกรอบ



ภาพมุมสูงที่กรมควบคุมมลพิษ บินสำรวจเหนือท้องนาแห่งหนึ่งในตำบลห้วยโพธิ์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พบสีของน้ำในบ่อมีทั้งสีแดงอมส้ม และสีดำ แตกต่างจากผืนนาที่อยู่ข้างเคียงกัน



เจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ และกรมโรงงานอุตสาหกรรมที่ไปสำรวจร่วมกัน สันนิษฐานว่า ที่นี่น่าจะเป็นสถานที่รับเก็บน้ำเสียสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นกรดรุนแรง โดยเบาะแสพบว่า เป็นสารเคมีจากโรงงานแห่งหนึ่งที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ทำสัญญาว่าจ้างให้โรงงานกำจัดขยะแห่งหนึ่งในจังหวัดอยุธยา รับไปกำจัด แต่ข้อมูลพบว่า โรงงานรับกำจัดไม่ได้นำไปที่อยุธยา แต่นำมาขายต่อให้ที่สุพรรณบุรี ที่ไม่มีสภาพเป็นโรงงานด้วยซ้ำ



อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม จังหวัดประสานทั้งกรมควบคุมมลพิษ ตำรวจปทส. ผู้ว่าราการจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อขอหมายค้นเข้าตรวจสอบพิกัดดังกล่าว ตามนโยบายและคำสั่งของนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ให้ใช้มาตรการเด็ดขาด ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้คนและสภาพแวดล้อม



ระหว่างนำหมายศาลเข้าไปตรวจค้น พบนายทวีศักดิ์ เลิศจารุพงษ์ อายุ 72 ปี และนายทวีศักดิ์ เลิศจารุพงศ์ ลูกชาย รับว่าเป็นเจ้าของที่ดิน และเจ้าของกิจการทั้งหมดนี้ และยอมรับได้ทำสกัดสารทองแดงจากสารเฟอริค คลอไรด ซึ่งเฟอร์รอค คลอไรด์ เป็นฤทธิ์เป็นกรดเข้มข้น แต่ยอมรับไม่ได้ขออนุญาตใดๆ ไม่ว่าจะเป็นขอต้งโรงงาน ขออนุญาตครอบครองสารเคมีที่เป็นวัตถุอันตราย ไม่มีระบบป้องกันการปนเปื้อน หรือรั่วซึม และไม่ได้ขออนุญาต อบต. โดยอ้างว่าคิดเองว่าทำได้ พร้อมซัดทอดว่ามีกลุ่มชาวจีน แนะนำให้รับซื้อเฟอร์ริค คลอร์ไร ตันละประมาณ 1 พันบาท เที่ยวละ 1 หมื่น 1 พันบาท มีรถมาส่งให้ถึงที่ จากนั้นก็นำมาสกัดเอาทองแดง หรือโลหะหนักอื่นๆ ที่มีค่าแล้ว และคนกลุ่มเดิมจะกลับมารับซื้อ



อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมกรมควบคุมมลพิษ ตำรวจปทส. และนายกฯอบต. ได้เดินสำรวจรอบๆพื้นที่ พบการปนเปื้อนและรั่วซึมของสารเฟอร์ริค คลอไรด์ลงพื้นที่ข้างเคียงแล้ว ขณะที่สภาพพื้นที่ ไม่ได้จดทะเบียนโรงงานก็จริง แต่มีเครื่องจักร มีการจ้างคนงาน และมีสารเคมีอันตราย โดยเฉพาะเฟอร์ริค คลอไรด์ ที่พบเป็นกรดเสื่อมสภาพ จากโรงงานอุตสากรรม



เจ้าหน้าที่ยังพบหลักฐานที่ เจ้าของกิจการนี้ใช้จ่ายเงิน เป็นเอกสารการจัดการสิ่งปฎิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว บ่งชี้ว่าเฟอริค คลอไลด์ ที่ควรจะไปกำจัดในโรงงานที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องนั้น กลับมีเอกสารอยู่ที่นี่



ประกอบด้วยบริท ทีเอชเอช โมลิโพเซสซิ่ง จ.ฉะเชิงเทรา พบ268 เที่ยว / บริษัท รอยัลไทม์ ซิตี้ จำกัด พระนครศรีอยุธยา 6 เที่ยว / บริษัทสยาม คาดิฮะระ ฉะเชิงเทรา 1 เที่ยว บ.ซิติเซ็น วอท์ช แมนนูเฟคเจอริ่ง พระนครศรีอยุธยา 1 เที่ยว และบริษัทเจเอชแอล แมททอลเลอจิคอล สมุทปราการ 1 เที่ยว



อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุว่ากรณีนี้เชื่อมโยงกับหลายบริษัท จึงจะประสานให้ตำรวจ ปทส.รับดำเนินคดี



ข่าว 3 มิติ พบว่านับแต่มีประกาศฉบับใหม่ของกระทรวงอุตสาหกรรม กรณีบริษัทผุ้ก่อกำเนิดกากอุตสาหกรรมต้องมีส่วนรับผิดชอบจนกว่ากากนั้นจะถูกกำจัดอย่างถูกต้อง ซึ่งกรณีนี้พบว่ากากนั้น นำออกนอกเส้นทางที่จะไปกำจัด และถูกนำไปขายให้ผู้อื่นนำไปสกัดอย่างไม่ถูกวิธี และอันตรายต่อผู้คน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมจึงสั่งให้ดำเนินคดีตามกฎหมายและขยายผลให้ครบทุกราย



กรณีเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีข้อหาตั้งสถานประกอบการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตและครอบครองสารเคมีอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต และขยายผลไปเอาผิดบริษัทต้นกำเนิดกากอุตสาหกรรมด้วย

คุณอาจสนใจ