สังคม

จบข้อพิพาท กรมแผนที่ทหาร ชี้ชัด ส.ป.ก.ไม่รุกเขาใหญ่ แต่ไม่เหมาะออกโฉนด

โดย panwilai_c

27 ก.พ. 2567

188 views

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงผลการตรวจสอบแนวเขตพิพาทระหว่าง ส.ป.ก. ที่ออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งสำรวจและ พิสูจน์โดยกรมแผนที่ทหาร โดยระบุว่ากรมแผนที่ทหารรายงานผลการสำรวจ ส่งถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว พบว่าแปลงพิพาทที่ ส.ป.ก.ออกเอกสารสิทธิ์ ไม่ได้รุกเข้าไป ในเขต อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และบริเวณดังกล่าวเป็นเขตของ ส.ป.ก.เอง อย่างไรก็ตาม บริเวณนั้นมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์ ก็ไม่เหมาะจะจัดสรรเป็นที่ทำกินอยู่ดี จึงมีข้อสรุป ร่วมกัน ที่จะกันไว้เป็นพื้นที่กันชน หรือ Buffer zone และให้สำรวจพื้นที่อื่นๆเพิ่มเติม หากพบว่านำไปพื้นที่่กันชนดังกล่าวจัดสรรให้ คนที่ไม่ได้ทำเกษตรกรรมต้องยึดคืน ส่วนที่ยังไม่ ได้จัดสรร ก็คงให้สภาพไว้เป็นป่าของ ส.ป.ก.



เจ้ากรมแผนที่ทหารส่งหนังสือราชการฉบับนี้ ถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานผลการสำรวจหาแนวเขตที่ดิน ที่พิพาทกันระหว่างสำนักงาน ส.ป.ก. กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเนื้อหาในข้อ 2 ระบุว่าผลการตรวจสอบ ทราบแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตามพระราชกฤษฎีกาและแผนที่ท้ายพระราชกฤษฏีกา กำหนดบริเวณที่ดินป่าเขาใหญ่ พ.ศ2505 บริเวณที่ดินทับซ้อน บ้านเหวปลากั้ง ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง พบว่าแปลงปฏิรูปที่ดิน ของส.ป.ก. ไม่ทับซ้อน และอยู่นอกแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่



เอกสารที่กรมแผนที่ทหารส่งมาด้วย คือแผนที่พร้อมเส้นแนวเขต แยกเป็นเส้นแนวเขตตามที่กรมอุทยานฯยึดถือ จะทำให้เห็นว่าแปลง ส.ป.ก. ในกรอบสีแดง อยู่ในเขตอุทยานฯ กับเสันแนวเขตอุทยานฯ ที่กรมแผนที่ทหารตรวจสอบ จะพบว่าแปลง ส.ป.ก.อยู่นอกเขตอุทยาน



ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงข่าววันนี้ว่า ผลพิสูจน์จากกรมแผนที่ทหาร ยืนยันว่าแปลงที่ ส.ป.ก. รังวัดออกเอกสารสิทธิ์ ไม่ได้ รุกเข้าไปในเขตป่าอุทยานฯ แต่ที่ผ่านมากรมอุทยานฯ ก็ปฏิบัติหน้าที่รักษาป่าโดยยึดถือแผนที่ของกรมอุทยานฯเอง เรื่องนี้จึงไม่มีใครถูกหรือผิด เพราะยึดถือแผนที่ คนละฉบับ

แต่ขณะเดียวกันสภาพพื้นที่ดังกล่าว ก็ไม่เหมาะที่จะออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน เพราะมีสภาพป่าสมบูรณ์ จึงสั่งให้เพิกถอนทั้งหมด และกันพื้นที่ดังกล่าว ให้เป็นป่า ส.ป.ก. เพื่อเป็นกันชนระหว่างอุทยานฯ กับแปลงทำกิน



ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ที่กล้าหาญปกป้องป่า ขณะเดียวกันก็ระบุว่ากรณีเจ้าหน้าที่ปฎิรูปที่ดินมีพฤติกรรม ส่อผิดกฎหมายในการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. หากพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินคดีตามมาตรา 157 และเพื่อความเป็นกลาง จึงร้องทุกข์ให้ตำรวจ ปปป.ดำเนินการ นอกจากนี้ ยังระบุว่าการดำเนินการ ไม่รังแก ข้าราชการ ส.ป.ก. หากดำเนินการด้วยความบริสุทธิ์ใจก็ไม่ต้องกลัว แต่หากประพฤติมิชอบก็ต้องเอาผิด



นอกจากนี้ ยังมีนโยบายดำเนินการการดำเนินการ เรื่องพื้นที่กันชน คือให้ตรวจสอบการจัดที่ดินในเขตปฎิรูปที่ดิน ตามแนวเขตอุทยานฯเขาใหญ่ และต่อเนื่องว่าจัดที่ดิน โดยผิดกฎหมายหรือไม่ หรือมิชอบด้วยกฎหมาย หรือยังมีที่ดินที่ยังไม่จัดสรรให้เกษตรกร ให้ทำแนวกันชน ระหว่าง ส.ป.ก กับอุทยานฯ และป่าสงวนแห่งชาติ ให้ตรวจสอบการจัดที่ดินรอยต่อ กับพื้นที่รับผิดชอบของกรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ และหน่วยงานที่รับผิดชอบของรัฐอื่นๆ โดยให้ดำเนินการทั่วประเทศ ว่าจัดที่ดินผิดกฎหมายหรือไม่ หากไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องดำเนินการให้เคร่งครัด และให้เตรียมสำรวจพื้นที่ ที่ยังไม่ได้รับการจัดสรร หรือที่ดินว่างเปล่า รองรับเกษตรกร หรือกลุ่มด้อยโอกาส ให้ได้รับการจัดสรรที่ดินตามระเบียบ ส.ป.ก



วันนี้กลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์ 23 องค์กร นำรายชื่อประชาชนที่แสดงความเป็นห่วงผืนป่าเขาใหญ่ ไปมอบให้พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อแสดงจุดยืนว่าขอให้รักษาอุทยานฯ และป่าเขาใหญ่ไว้ เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า เป็นมรดกโลก ไม่ควรให้มีการออกเอกสาร ส.ป.ก. ในพื้นที่ล่อแหลมต่อการคุกคาผืนป่า ซึ่งพลตำรวจเอกพัชรวาทรับปากและยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จะปกป้องผืนป่าอุทยานฯเต็มที่

คุณอาจสนใจ

Related News