สังคม

ยังไม่มีข้อสรุปการจบชีวิต 'ภานุมาส' คดีครอบครองปรปักษ์บ้าน เจ้าของบ้าน ย้ำไม่เคยกดดันฝั่งผู้ตาย

โดย parichat_p

26 ก.พ. 2567

79 views

ยังไม่มีข้อสรุปปมการฆ่าตัวตายของหนึ่งในผู้ต้องหา คดีครอบครองปรปักษ์บ้านบ้านทาวน์โฮม ย่านรามอินทรา ว่า มาจากความเครียดจากการถูกแจ้งความดำเนินคดีหรือมาจากสาเหตุอื่นกันแน่ โดยล่าสุดหลังเกิดเหตุ ทนายความทั้ง 2 ฝ่ายต่างออกมา ให้ข้อมูลคนละทางกัน ขณะที่ฝ่ายเจ้าของบ้าน ก็เตรียมให้ถอนคดีส่วนของผู้เสียชีวิตออก พร้อมกับบอกว่า คดีนี้เป็นการฟ้องข้อหาบุกรุก และยังไม่เคยมาไกล่เกลี่ยกัน ย้ำว่าไม่เคยกดดันฝั่งผู้ตาย


ร่างของนางสาว ภานุมาส อายุ 52 ปี ถูกพบว่าเสียชีวิตอยู่ในห้องนอนชั้น 2 ของตัวเอง ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนวงแหวนกาญจนาเษก จากการสอบถามญาติทราบว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้พยายามเรียกผู้เสียชีวิตแต่ไม่มีการตอบรับ เมื่อบุกเข้าไปในห้องได้ ก็พบว่าผู้เสียชีวิตผูกคออยู่ภายในห้องน้ำที่บริเวณประตู จึงเข้าช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ตายใช้ผ้าปูเตียงเป็นอุปกรณ์ โดยภายในห้องนอนไม่พบร่องรอยการต่อสู้


แพทย์ชันสูตร สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนว่า ผู้ตายน่าจะเสียชีวิตไม่เกิน 3-4 ชั่วโมง ก่อนเวลาพบศพตอนประมาณ 08.00 น. คาดว่าน่าจะทำร้ายตัวเองตอนประมาณช่วงเช้ามืด เพราะร่างกายยังไม่เปลี่ยนสภาพ โดยผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นหนึ่งใน 5 ผู้ต้องหาที่ตกเป็นจำเลยในคดีการครอบครองปรปักษ์บ้านทาวน์โฮมในพื้นที่รามอินทราซอย 58


นาย วัฒนา เรืองแก้ว ทนายความของ 5 ผู้ต้องหา ครอบครองปรปักษ์บ้านทาวน์โฮม ระบุว่า ก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตเคยบ่นกับคนรอบตัว และมาปรึกษาว่าเครียดจากคดี เนื่องจากทางเจ้าของบ้านตัวจริงใช้สื่อนำเสนอเรื่องดังกล่าวมากดดัน



ประกอบกับมีโรคประจำตัวร้ายแรง ที่ไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นโรคอะไร โดยต่อจากนี้จะต้องพูดคุยกับญาติรวมถึงลูกความคนอื่น ๆ ถึงขั้นตอนการดำเนินการทางคดีต่อ แต่คดีของผู้เสียชีวิตก็ถือว่าสิ้นสุดลงเพราะได้เสียชีวิตไปแล้ว และนายวัฒนา ยังโทษว่า สื่อมีส่วนกดดันให้ลูกความฆ่าตัวตาย


ด้านนางสาว อำนวยพร มณีวรรณ์ ทนายความของฝั่งโจทก์ หรือ ครอบครัวอากู๋ เจ้าของบ้านตัวจริง เมื่อทราบข่าวก็ได้มาติดตามสถานการณ์ที่ สน.คันนายาว พร้อมบอกว่า อากู๋ทราบข่าวก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่รู้ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป


โดยสำหรับนางสาวภานุมาศ ผู้เสียชีวิต เป็นหนึ่งในห้าผู้ต้องหาที่ถูกทางเจ้าของบ้านตัวจริงฟ้องข้อหาบุกรุก ในคดีแรก เมื่อวันที่ 17 กันยายน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีฟ้องครอบครองปรปักษ์ และที่ผ่านมาตัวผู้ตายก็ไม่เคยเข้าไกล่เกลี่ยกับทางทนาย เดชา หรือเธอ


ส่วนทนายความคู่กรณีให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ลูกความใช้สื่อกดดัน คู่กรณี ส่วนตัวมองว่าในฐานะทนายความและที่ปรึกษาทางกฎหมายก็มีหน้าที่ที่ต้องดำเนินการทางคดีเพื่อปกป้องสิทธิ์ของทางลูกความ สื่อก็มีหน้าที่นำเสนอข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นไปตามขั้นตอน จึงเชื่อว่าไม่ใช่การกดดัน แต่ก็อยู่ที่มุมมองส่วนบุคคล


คดีนี้หากเรียงตามไทม์ไลน์ เกิดขึ้นหลังจากที่ทางเจ้าของบ้านตัวจริง แจ้งฟ้อง 5 ผู้ต้องหาฐานบุกรุก ซึ่งในคดีนี้มีการนัดเจรจากันที่สน. แล้ว แต่ไม่สามารถตกลงเรื่องค่าเสียหายได้ จึงยุติการดำเนินการไป และส่งมอบตัวบ้านคืนพร้อมรับทราบข้อหา และมีกำหนดส่งฟ้องต่อศาลในวันที่ 6 มีนาคมที่จะถึงนี้


ต่อมาเจ้าของบ้านตัวจริงได้รับหมายศาลว่ามี 1 ในผู้ต้องหา ยื่นฟ้องศาลมีนบุรีเพื่อครอบครองปรปักษ์บ้านดังกล่าว จึงส่งคำร้องคัดค้าน และฟ้องเรียกค่าเสียหายในคดีแพ่งไปกับทาง นางสาวศรีพรรณ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีบุกรุกคดีแรก และเป็นคนที่แจ้งฟ้องครอบครองปรปักษ์ ทำให้นางสาวศรีพรรณโดนดำเนินคดีข้อหาบุกรุกรอบที่ 2 เพิ่มไปอีก

คุณอาจสนใจ

Related News