แพทย์ใหญ่ รพ.ตร. ส่งทนายยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ยันมีข้อมูลอีกมุมหนึ่ง ปม “ทักษิณ”

นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ ส่งทนายความยื่นหนังสือถึง รมว.กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีที่ประชุมมีมติลงโทษ 3 แพทย์ ผู้เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวชั้น 14 ของ “ทักษิณ” เผยมีข้อมูลอีกมุมหนึ่งอยากให้สภานายกพิเศษฯ รับทราบ พร้อมโต้แย้งปมไม่มีข้อมูลเชิงประจักษ์ว่ามีอาการป่วยวิกฤต

วันนี้ (13 พ.ค. 68) ที่กระทรวงสาธารณสุข นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้แทนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา รับหนังสือขอความเป็นธรรม จากนายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวของ พลตำรวจโทนายแพทย์ ทวีศิลป์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ที่เดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ภายหลังคณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ราย จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ของนายทักษิณ ชินวัตร

นายเนติธร ทนายความส่วนตัวของพลตำรวจโทนายแพทย์ ทวีศิลป์ ให้ข้อมูลว่า วันนี้ได้รับมอบอำนาจจาก พลตำรวจโทนายแพทย์ ทวีศิลป์ ให้มายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษฯ เพื่อให้บทวนคำสั่งของแพทยสภา ซึ่งเป็นการใช้สิทธิตามขั้นตอน แม้ตอนนี้คำสั่งแพทยสภา ยังไม่มีหนังสือถึงสภานายกพิเศษฯ แต่พลตำรวจโทนายแพทย์ ทวีศิลป์ ได้รับข้อมูลจากสำนักข่าวต่างๆ จึงทำให้เกิดความไม่สบายใจ รู้สึกกระทบกับชื่อเสียงและภาพลักษณ์ จึงขอใช้สิทธิร้องขอความเป็นธรรม

ด้าน ดร.ธนกฤต ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าพลตำรวจโทนายแพทย์ทวีศิลป์ ได้ให้ทีมงานติดต่อมาที่ตนเอง แจ้งว่าจะให้ทนายส่งเอกสารขอความเป็นธรรมต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษฯ เนื่องจาก พลตำรวจโทนายแพทย์ทวีศิลป์ ได้ทราบจากสื่อว่าจะมีการลงโทษแพทย์ ในกระบวนการลงโทษนั้น ต้องมีการไต่สวนก่อน ทำให้พลตำรวจโทนายแพทย์ทวีศิลป์ อนุมานได้ว่า น่าจะเป็นตนเองที่ถูกดำเนินการ

ประเด็นหลักๆ ที่จะขอความเป็นธรรม เป็นการโต้แย้ง ข้อมูลอุปนายกแพทยสภา เรื่องไม่มีข้อมูลเชิงประจักษ์ว่ามีอาการวิกฤติ เพราะการวินิจฉัยเป็นไปตามเวชทะเบียนที่มีอยู่ ดังนั้นจึงอยากจึงอธิบายข้อมูลเพิ่มเติมให้สภานายกพิเศษฯรับทราบ เป็นการให้ข้อมูลอีกมุมหนึ่ง แต่ขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังไม่ได้รับหนังสือจากแพทยสภา หากได้รับหนังสือวันไหน มีกรอบเวลาดำเนินการภายใน 15 วัน ตนได้เสนอต่อรัฐมนตรีฯไปแล้ว ว่าควรตั้งคณะทำงาน มาช่วยพิจารณาข้อมูลต่างๆ ในเรื่องนี้

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะนำเอกสารที่ได้รับวันนี้ เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของสภานายกพิเศษฯ ที่จะต้องให้ความเห็นต่อแพทยสภาภายใน 15 วันหลังจากรับหนังสือ กระบวนการตอบกลับ จะมีเพียง 2 ทาง คือ เห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย ไม่ว่าสภานายกพิเศษฯ จะมีความเห็นอย่างไร แพทยสภาจะมีการประชุมคณะกรรมการแพทยสภาอีกครั้ง เพื่อดูความเห็นของสภานายกพิเศษฯ กรณีที่ไม่เห็นด้วย หรือมีการโต้แย้ง แพทยสภาต้องทำการโหวตเสียงคณะกรรมการ 2 ใน 3 ว่าจะยึดตามมติเดิมหรือไม่

ดร.ธนกฤต ยืนยันว่า การพิจารณาของสภานายกพิเศษฯไม่มีการประวิงเวลา เพราะมีกรอบเวลากำหนดอยู่แล้ว ว่าหลังได้รับหนังสือ ต้องตอบกลับภายใน 15 วัน ดังนั้นขอให้ตัดประเด็นการเมืองออกไปได้ เพราะการพิจารณา เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยของแพทย์ผู้รักษา ซึ่งโดยหลักการพิจารณา ควรให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้ชี้แจง หากไม่ให้ชี้แจงก็เหมือนเอากฎหมายไปปิดปาก โดยที่ไม่มีโอกาสโต้แย้งเลย