สำรวจพฤติกรรมแท็กซี่ กทม. พบไม่ใส่ยูนิฟอร์ม ไม่ยอดกดมิเตอร์ ขายทัวร์เถื่อนเกลื่อนถนน

ข่าว 3 มิติ ลงสำรวจพฤติกรรมแท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร หลังกรุงเทพมหานครพบปัญหาการร้องเรียนจนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว โดยประเด็นนี้กลายเป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีกังวล และหารือกับทางกทม.เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา วันนี้คุณธีรุตม์ นิมโรธรรม ผู้สื่อข่าวของเราได้ลองเป็นนักท่องเที่ยวเข้าสอบถามการใช้บริการรถแท็กซี่บริเวณที่เป็นปัญหา และถูกปฏิเสธการกดมิเตอร์ทุกคัน นอกจากนี้ยังพบว่า มีการฝ่าฝืนกฎจราจรและกฎของกรมการขนส่งทางบกอีกหลายข้อ



ข่าว 3 มิติ สำรวจพฤติกรรมแท็กซี่ย่านราชประสงค์ โดยทีมข่าวได้ปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยว เพื่อเรียกรถไปยังย่านพระบรมหาราชวัง ซึ่งนี่คือพฤติกรรมของแท็กซี่ทุกคันในบริเวณนั้น จะเห็นได้ว่าแท็กซี่ทุกคันที่ทีมข่าวเรียก ปฏิเสธการกดมิเตอร์ทุกคัน แม้ทีมข่าวจะสอบถามถึงมิเตอร์ที่ติดตั้งอยู่หน้ารุถ โดยอ้างถึงงานเทศกาลและความเป็นย่านการค้า ไม่ใช่แค่นั้นพวกเขายังมีโปรแกรมทัวร์ที่พร้อมนำมาเสนอขายนักท่องเที่ยวทันทีที่มีการสอบถามอีกด้วย



ข้อมูลจากกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ช่วงเดือน ตุลาคมปี 2565 ถึง กันยายนปี 2566 พบว่า ปัญหารถสาธารณะเอาเปรียบนักท่องเที่ยว กับ ปัญหาทัวร์ด้อยคุณภาพและฝ่าฝืน พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยว ยังคงอยู่ใน 5 ของการเอาเปรียบและหลอกลวงนักท่องเที่ยว



พลตำรวจเอกอดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า ในฐานะที่เคยเป็นผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยวระหว่างปี 2552-2555 ก็ยืนยันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นยังเป็นลักษณะเดิมในกลุ่มรถบริการสาธารณะ



เช่น แท๊กซี่และสามล้อ แม้ว่าจะผ่านมานานกว่า 15 ปี แล้ว โดยเฉพาะการคิดค่าโดยสารแบบเหมา และ การพานักท่องเที่ยวไปส่งยังเอเยนต์เพื่อรับค่านายหน้า



เบื้องต้นกรุงเทพมหานครได้ดำเนินมาตรการ แก้ไขปัญหาแท็กซี่ รถตุ๊กๆ และมัคคุเทศก์ผี โดยร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมการขนส่งทางบก ช่วยดูแล ป้องปราม และ จัดพื้นที่เหมาะสมให้บริการ



โดยนำเทคโนโลยีเอไอช่วยตรวจสอบและเฝ้าระวัง ขณะเดียวกันก็เตรียมเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนหารือแนวทางการควบคุมในส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกันในวันพุธนี้



ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาใหม่ ที่ไม่เคยเกิดขึ้น และเป็นปัญหาต่อเนื่องมานานนับสิบปี แม้จะมีการออกปราบปรามบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่สามารถลดจำนวนรถสาธารณะและไกด์เถื่อนเหล่านี้ได้ จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า เพราะเหตุใด พื้นที่เศรษฐกิจบริเวณย่านราชประสงค์ ที่หลายหน่วยงานให้ความสำคัญ กลับยังคงมีผู้ฝ่าฝืนทำความผิดอย่างโจ่งแจ้งในลักษณะนี้อยู่ได้



หากเทียบความผิดตามกฎหมายแล้ว การกระทำเหล่านี้ฝ่าฝืนพรบ.กรมการขนส่งทางบก ทั้งการไม่กดมิเตอร์และคิดราคาค่าโดยสารแบบเหมา ในความผิดไม่ใช้มาตราค่าโดยสาร การแต่งกายไม่ถูกต้อง ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถปรับและพักใช้ใบอนุญาตได้



นอกจากนี้ยังอาจเข้าข่ายการจัดทัวร์เถื่อนหรือไกด์เถื่อน ตามความผิดตามพรบ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศน์ ฐานประกอบธุรกิจนำเที่ยว ในการจัดทัวร์โดยไม่ได้รับอนุญาต



ที่สำคัญทั้งแท็กซี่และรถสามล้อในย่านนี้ยังฝ่าฝืนกฎจราจร จอดในที่ห้ามจอด ซึ่งก็มีป้ายและสัญลักษณ์บอกชัดเจนตลอดแนวถนนราชดำริอีกด้วย