สังคม

จนท.อุทยานฯ พบเพิ่มสวนป่าปางอโศก ถูกรุกปักหมุด ส.ป.ก.เกือบ 400 ไร่

โดย panwilai_c

21 ก.พ. 2567

572 views

นอกจากสถานการณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลแล้ว ในพื้นที่อำเภอปากช่อง วันนี้มีความเคลื่อนไหวที่สำคัญยิ่ง เพราะเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และตำรวจ นำหมายค้นศาลจังหวัดสีคิ้ว ไปค้นและยึดรถแบ็คโฮกับรถไถ 2 คัน ที่มีเบาะแสว่า เป็นรถที่ไปปรับไถดินแปลงพิพาท ส.ป.ก. ปรากฏว่า พบเจ้าของรถ อ้างตัวเป็นภรรยาของพนักงานราชการ สังกัดกรมป่าไม้ ส่วนอดีตพนักงานราชการสังกัดกรมป่าไม้คนนี้ ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการออกโฉนด ส.ป.ก. แต่ยอมรับว่าให้คำปรึกษาการร้องขอออกโฉนดดังกล่าวต่อชาวบ้าน



นายชัยวัฒน ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และตำรวจปากช่อง นำหมายค้นศาลจังหวัดสีคิ้ว ไปค้นที่บ้านหลังหนึ่ง ในตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง หลังจากสืบทราบว่า มีรถไถและรถแบ็คโฮ สองคัน ที่เข้าไปปรับสภาพที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แปลงที่มีข้อพิพาทเรื่องการฝังหมุด ส.ป.ก. มาจอดไว้ที่นี่



เมื่อไปถึงก็พบหญิงคนนี้ ที่ยืนยันว่าเป็นเจ้าของรถแบคโฮ 1 คัน ส่วนรถไถเป็นของญาติ ที่เป็นน้าของสามี และสามีของเธอคือนายสวรรค์ สังเกตุกิจ อดีตพนักงานราชการ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ตรวจป่า เดิมสังกัดหน่วยปัองกันรักษาป่านครราชสีมาที่ 1 กรมป่าไม้ แต่ถูกย้ายไปประจำการที่จังหวัดบุรีรัมย์เมื่อปลายปีที่แล้ว และเพิ่งยื่นลาออกจากตำแหน่งพนักงานราชการเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา



เจ้าหน้าที่ได้อ่านหมายศาลให้หญิงคนนี้ฟังเพื่อจะเข้าค้น แต่เธอปฎิเสธไม่ให้ค้นเด็ดขาด แม้จะมีหมายศาลมาก็ตาม เจ้าหน้าที่จึงขอให้เธอโทรศัพท์หานายสวรรค์ สังเกตุกิจที่เป็นสามีของเธอ เธอก็อ้างวว่าสามีพักผ่อนและไม่อยู่ที่บ้าน



เจ้าหน้าที่พยายามขอให้เธอให้ความร่วมมือและสอบถามเรื่องรถทั้ง 2 คัน ที่เข้าไปบุกรุกแผ้วถางป่า เธอยอมรับว่า มีผู้ขับเข้าไปทำงานจริง เพราะมั่นใจว่าที่ดินแปลงนี้เป็น สปก. แน่นอน และการที่จะมาค้นหรือยึดรถเธอไม่ เธอไม่ยอมเด็ดขาด



อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้อธิบายระเบียบกฎหมายให้เธอฟัง และบอกว่าเธอในฐานะเจ้าของรถมีสิทธิ์ไปโต้แย้งได้แต่รถนี้เป็นของกลางในคดีแล้ว โดยผู้อำนวยการสำนักอุทยานฯ ยืนยันว่า ทั้งการแกะรอยจากเจ้าหน้าที่ ตรงกับที่เจ้าของรถสารภาพว่าไปแผ้วถางป่าแปลงนี้จริง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ย้ายรถทั้ง 2 คัน ที่เป็นของกลางไปเก็บไว้ที่สถานีตำรวจภูธรกลางดง



หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขอใช้อำนาจตามหมายศาล ค้นภายในบ้านดังกล่าว ท่ามกลางการพยายามขัดขวางจากหญิงคนนี้ และ ปรากฎว่าระหว่างนั้นนายสวรรค์ ก็แสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ว่าอยู่ในบ้าน ทั้งที่ตอนแรกหญิงคนนี้อ้างว่าไม่ได้อยู่ที่นี่



นายสวรรค์ บอกข่าว 3 มิติว่าเขาไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่มาหาเขา นึกเองว่ามาตรวจป่าแปลงอื่น ทั้งที่เจ้าหน้าที่ยืนอยู่รอบบ้านเขาเอง



นายสวรรค์ยังบอกว่า เขายอมรับว่า ญาติของเขาได้โฉนด สปก.4-01 จำนวน 1 แปลง และเป็นแปลงที่รถไถเข้าไปปรับสภาพ ส่วนตัวเองเขาเกี่ยวไปเกี่ยวข้องเรื่องนี้ เพราะมีชาวบ้านมาถาม เริ่มจากชาวบ้านมี สค.1 ต้องการออกโฉนดจึงไปปรึกษากรมที่ดิน เขาอ้างว่ากรมที่ดินตรวจพบว่า สค.1 นี้อยู่ในเขต สปก.เขาจึงแนะนำให้ไปยื่นคำร้อง สปก. และนายช่าง สปก.ก็มารังวัดออกแปลงให้ดังกล่าว



การเปิดเผยของนายสวรรค์ ค่อนข้างย้อนแย้งกับข้อมูลที่เขาเปิดเผยต่อหน้านายชัยวัฒน์ โดยเฉพาะเมื่อนายชัยวัฒน์ ถามว่านายสวรรค์ เคยเป็นพนักงานราชการในการรักษาป่า ย่อมรู้ดีว่าบริเวณนี้เป็นเขตอุทยานฯ แต่นายสวรรค์บอกว่า เขารู้ว่าเป็นแปลงพิพาทกับ สปก.



นายสวรรค์ ยังยอมรับว่าเขารู้จักกับอดีตนายช่างรังวัด ของนิคมสร้างตนเอง คนหนึ่ง และผู้รับเหมารายใหญ่คนนี้ ที่มีบ้านติดกันกับเขาด้วย



ขณะที่ข่าว 3 มิติ พบข้อมูลว่าอดีตนายช่างรังวัดของนิคมสร้างตนเอง มีส่วนสำคัญในการร่วมกันหาที่ดิน แล้วนำไปร้องขอออกโฉนด สปก. ในลักษณะเป็นนอมินีให้นายทุน



ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำหมายศาลไปยึดรถคันนี้ตามบ้านเลขที่หลังดังกล่าว ที่รถทั้ง 2 คันจอดอยู่ ก็สังเกตเห็นว่าบ้านหลังนี้และบ้านใกล้เคียงตั้งอยู่ในพื้นที่ ที่น่าจะเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงพญาเย็น บริเวณนี้น่าจะเป็นสวนป่าปางอโศก



ซึ่งข่าว 3 มิติ เคยไปสำรวจที่นี่เมื่อเกือบ 7 ปีก่อน แต่การพบล่าสุดนี้ มีการปักหมุด สปก.ไปถึงเชิงเขาสูง มีร่องรอยตัดไม้ แผ้วถาง และปลูกต้นไม้เพิ่มอีกว่า 400 ไร่



ภาพมุมสูงบริเวณบ้านพักที่ภรรยานายสวรรค์ มีชื่อครอบครอง รวมถึงบุคคลที่นายสวรรค์ และหญิงคนนี้อ้างว่าเป็นภรรยา ครอบครองอยู่นั้น มีเขตหมุด ส.ป.ก. ปักอยู่หลายจุดท่ามกลางข้อสงสัยว่า บริเวณนี้เป็นผืนป่าหรือไม่ เพราะเจ้าหน้าที่อุทยานฯก็มีข้อมูลว่าที่นี่เป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงพญาเย็น และข่าว 3 มิติ คืนมาที่นี่เมื่อเกือบ 7 ปีก่อน ซึ่งเป็นพื้นที่โดยรอบที่เรียกว่าสวนป่าปางอโศก ต.กลางดง



เจ้าหน้าที่สงสัยว่า เหตุใดมีร่องรอยการบุกรุกแผ้วถางข้ามเขตถนนไปถึงเชิงเขา จึงเดินสำรวจเข้าไปและทีมข่าว ก็เข้าไปสำรวจด้วย พบร่องรอยตัดไม้ ร่องรอยเปิดหน้าดิน การขุดก้อนหิน และปลูกไม้เป็นระยะ



จากพื้นที่เชิงเขาที่ร่องรอยปลูกต้นไม้ ที่ไม่รู้ว่าจะรอดหรือไม่นั้น ก็ได้รับทราบจากชุดเดินเท้าว่า มีหมุด ส.ป.ก.ปักอยู่แนวต้นไม้ที่สูงขึ้นไปอีก



ร่องรอยของตอไม้ต้นสีเสียด ที่ถูกตัดออกเป็นระยะ เป็นหนึ่งหลักฐานที่นายชัยวัฒน์ ยืนยันว่าบริเวณนี้เป็นแปลงปลูกป่า ที่ปลูกไม้สีเสียดเป็นไม้เบิกนำ



เป็นที่น่าสังเกตว่า บ้านหลังใหญ่ และสิ่งปลูกสร้างหลายหลังบริเวณนี้ มีหมุด ส.ป.ก.ตั้งอยู่มีรถแบ็คโฮ รถทำงาน ที่คนในพื้นที่รู้ดีว่ามีอาชีพรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่จากลพบุรีมาอยู่ที่นี่ จึงเกิดคำถามว่า บริเวณนี้เป็นสวนป่าหรือ ส.ป.ก. และถ้าเป็น สปก.จะปลูกอะไรบนแนวโขดหิน และเจ้าของบ้านแปลงนี้ เป็นเกษตรกรที่มีสิทธิ์ได้สปก.หรือไม่

คุณอาจสนใจ

Related News