เปิดพิรุธ ออก ส.ป.ก.4-01 พบที่ดินบางเเปลงเป็นแหล่งน้ำ ชอบด้วยกม.จริงหรือ?

กรณีพบการออก ส.ป.ก.4-01 ในพื้นที่ทับซ้อนเเนวเขตอุทยานเเห่งชาติเขาใหญ่ เเม้จนถึงตอนนี้ จะยังไม่ได้ข้อสรุป เเต่ประเด็นการมอบเอกสารเเละจัดสรรที่ทำกินให้ราษฎร ซึ่งปรากฏว่าบุคคลทั้ง 5 ราย ไม่เคยเข้ามาอาศัยทำกินเเละก็ไม่ใช่คนในพื้นที่บ้านเหวปลากั้ง ประกอบ กับพบที่ดินบางเเปลงมีลักษณะเป็นหนองน้ำ จึงเป็นข้อสงสัยที่ภาคประชาสังคม โดยเฉพาะเครือข่ายอนุรักษ์ทั่วประเทศ ต้องการให้ตรวจสอบคุณสมบัติเเละขั้นตอนการออก ส.ป.ก.ในพื้นที่พิพาท เป็นไปตามระเบียบถูกต้อง เเละชอบด้วยกฎหมายหรือไม่



ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพป่าที่ถูกเปิด-เกิดเป็นรอยเเหว่ง ปรากฎชัดเจน บริเวณนี้ตั้งอยู่ในเเนวป่าที่เป็นกรณีพิพาท ซึ่งขณะนี้กรมเเผนที่ทหาร อยู่ระหว่างพิสูจน์เพื่อให้ได้คำตอบว่า ส.ป.ก.4-01 ทั้ง 5 เเปลง รวมถึงเเปลงอื่น ๆ ทั้งที่สำรวจเเล้ว เเละเเปลงที่เตรียมจะประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน จำนวนไม่น้อยกว่า 2,900 ไร่ เป็นของส.ป.ก. หรือ อุทยานเเห่งชาติเขาใหญ่กันเเน่



แม้จะยังไม่ได้ข้อสรุป เเต่ส.ป.ก.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เข้ามาสำรวจ-จัดสรรให้ราษฎร ก็ยังถูกตั้งคำถามจากภาคประชาสังคมเเละเครือข่ายอนุรักษ์ ใช้หลักเกณฑ์เเบบใด ในการพิจารณา ทั้งประเด็นพื้นที่เเละคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับสิทธิ์



หลังพบข้อมูลว่า ทั้ง 5 รายที่ได้รับการคัดเลือก ไม่ได้มีทะเบียนราษฏร์อยู่ใน ต.หมูสี หรือ ม.10 บ้านเหวปลากั้ง เเต่มาจากมวกเหล็ก หนองสาหร่าย กลางดง เเละที่มาจาก ต.จันทึก ซึ่งประเด็นนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกัน



เพราะเท่าที่ข่าว 3 มิติ ทราบจากอดีตเเละผู้นำชุมชนในปัจจุบัน พบว่ายังมีชาวบ้านในพื้นที่อีกหลายสิบครอบครัว เคยไปยื่นเรื่อง เเละเฝ้ารอจะได้มีที่ทำกินจากภาครัฐ



ประเด็นพื้นที่ประกาศเขตปฏิรูป ถูกตั้งข้อสังข้อเกตด้วยเช่นกัน ซึ่งพบว่ามีบางเเปลงออกทับบนหนองน้ำ ซึ่งสงสัยว่า หลักเกณฑ์การจัดสรรที่ให้ราษฎร ถ้าสภาพเป็นเเบบนี้ จะทำมาหากินอะไรได้บ้าง ในที่ ส.ป.ก.เเปลงนี้



หนองน้ำที่ปรากฏร่องรอยของสัตว์ป่า เป็นอีกหนึ่งข้อบ่งชี้ ที่กรมอุทยานฯ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่า มั่นใจว่า ที่นี่ยังมีสภาพป่าสมบูรณ์



พลายด้วน หรือพี่ด้วน ช้างป่าเพศผู้ที่หลายคนคุ้นเคยเเละพบเห็นได้บ่อยครั้งระหว่างขึ้นไปพักผ่อนหรือท่องเที่ยวบนอุทยานเเห่งชาติใหญ่ เป็นอีกตัวชี้วัดสำคัญที่ออกมาปรากฏตัว ในวันที่ทุกฝ่ายกำลังรอคำตอบว่า เเนวป่าในเเปลงพิพาทนี้ เป็นของส.ป.ก.หรือ กรมอุทยานฯ



หมุดส.ป.ก.ก็เป็นอีกประเด็น ที่ผู้อำนวยการสำนักอุทยาน สะท้อนว่า นี่คือรูปเเบบหรือเทคนิคที่ผู้ครอบครองหลายราย นำมาปักไว้เพื่อเเสดงอาณาเขต ทั้งที่ความจริงคนเหล่านี้ ได้ส.ป.ก.4-01 มาเเล้ว เเต่กลับเลือกเอาหมุดรหัส-30 มาปักไว้เเทน เผื่อใช้ในกรณีสู้กันในชั้นศาล

ตอนนี้ข้อเท็จจริงว่าที่ดินแปลงพิพาทอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานใดแน่ ระหว่าง ส.ป.ก. กับเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ยังต้องรอการพิสูจน์จากกรมแผนที่ทหาร แต่ตอนนี้ได้เห็นชัดเจนว่า ต่อให้ผลออกมาว่าเป็นที่ดินของ ส.ป.ก. แต่ก็ยังมีคำถามว่าโฉนด ส.ป.ก.4-01 ที่ออกมานั้นมีขั้นตอนที่ถูกต้องโดยชอบหรือไม่

โดยเฉพาะแปลงที่ออก ทับบนแหล่งน้ำดังกล่าว ล่าสุดเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม มีหนังสือด่วนที่สุด 3 ฉบับในวันนี้ เพื่อยุติการปฏิบัติงานในพื้นที่ ทับซ้อน ในระหว่างรอ การพิสูจน์จากกรมแผนที่ทหาร ขณะเดียวกัน ก็ลงนามตั้งกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริงข้อร้องเรียนการออกโฉนด ให้ได้คำตอบภายใน 30 วัน



ภาพนี้ บันทึกไว้เมื่อ 8 มิถุนายน 2565 แสดงแปลงตรวจสอบ ส.ป.ก. เนื้อที่ 3 ไร่ 3 งาน 5 ตารางวา ที่บ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี โดยเส้นสีดำในภาพ คือขอบเขตก่อนที่จะถูกแผ้วถาง มีแหล่งน้ำอยู่ข้างเคียง



ส่วนภาพนี้บันทึกไว้ด้วยโดรน เมื่อวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา บนแปลงที่ดินแปลงเดียวกัน ที่เห็นร่องรอยการแผ้วถางเข้าไปชัดเจน ตามแนวเส้นขีดสีดำ และมีแหล่งน้ำข้างเคียงที่มอบเห็นชัดขึ้น



ส่วนภาพนี้ มีเส้นสีแดง แสดงแนวเขตการกำหนดแปลงที่ดิน 2 แปลง จากจำนวน 4 แปลงในบริเวณที่ออกโฉนด ส.ป.ก. 4-01 ซึ่งอยู่คร่อมทับแหล่งน้ำดังกล่าวชัดเจน // ภาพเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ถูกตั้งคำถามว่า ต่อให้ผลพิสูจน์ว่าที่ดินเหล่านี้อยู่ในเขต ส.ป.ก.จริง การออกโฉนดทับบนแหล่งน้ำนั้นทำได้หรือไม่ และขั้นตอนการรังวัดออกมานั้น เป็นไปโดยชอบหรือไม่ ซึ่งประเด็นเหล่านี้เป็นหนึ่งในคำถามต่อเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.



ล่าสุดนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตร หรือ ส.ป.ก. ลงนามในคำสั่งที่155/2567 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริง กรณีออกโฉนด สปก.4-01 ดังกล่าวว่าเป็นไปโดยชอบหรือไม่ โดยคณะกรรมการสืบสวนหาข้อเท็จจริง มี 4 คน นำโดยนายประพันธ์ คำบาง ผู้ตรวจราชการกรม เป็นประธาน กรรมการ ให้สืบสวนหาข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และรายงานผลพร้อมความเห็นเสนอเลขาธิการ ส.ป.ก. ด้วย



นายวิณะโรจน์ ยังออกหนังสืออีก 2 ฉบับ เป็นหนังสือด่วนที่สุด ส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ใจความสำคัญว่าเรื่องนี้กรมแผนที่ทหารจะเข้าดำเนินการสำรวจเส้นแนวเขตของทั้งสองหน่วยงาน ให้ถูกต้องชัดเจนภายใน 2-3 สัปดาห์ ระหว่างนี้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งสำนักงาน ส.ป.ก.จังหวัด ยุติการปฎิบัติงานในพื้นที่ดังกล่าว จนกว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องเส้นแนวเขตที่ชัดเจนเสียก่อน



สำหรับหนังสืออีก 1 ฉบับ เป็นบันทึกข้อความภายใน ส่งถึง ส.ป.ก.จังหวัดนครราสีมา เพื่อสั่งให้เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา ยุติการปฎิบัติงานในพื้นที่ดังกล่าว จนกว่าจะได้ข้อสรุป และขอให้แจ้งเกษตรกรที่ได้รับการจัดที่ดิน ให้ยุติการเข้าไปทำประโยชน์ที่ดินด้วย // หนังสือทั้ง 3 จังหวัด เป็นหนังสือด่วนที่สุด ลงนามในวันนี้



ขณะที่ด้านหนึ่ง พลตำรวจเอกพัชวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่าได้รับรายงานข้อเท็จจริงเบื้องต้น จากผู้ช่วยรัฐมนตรี อธิบดีกรมอุทยานฯ และผู้อำนวยการสำนกอุทยานฯแล้ว พรุ่งนี้จะเชิญร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หารือเรื่องนี้ในช่วงเช้าก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี



โดยระบุว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาแนวเขตทับซ้อนกัน 3 หน่วยงาน คือ ส.ป.ก. /กรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ ซึ่งเรื่องนี้ต้องหาข้อยุติโดยเร็ว เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่สังคมให้ความสนใจ ต้องทำให้เกิดความโปร่งใส ตรงไปตรงมา รวมทั้งจะพิจารณาการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อเรียกร้องด้วย พร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหาขัดแย้งอะไรกัน แต่อาจมีรายละเอียดเล็กน้อยในการทำงานที่ตกหล่น แต่ท้ายที่สุดต้องยึดตามหลักฐาน ที่เชื่อว่าข้อเท็จจริงมีเพียงหนึ่งเดียวและพิสูจน์ได้



พลตำรวจเอกพัชรวาท ยังขอบคุณภาคประชาชน กลุ่มอนุรักษ์ ที่ห่วงใยและกังวลว่าปัญหานี้จะกระทบต่อการเป็นมรดกโลกของอุทยานฯ จึงยืนยันว่าจะติดตามตรวจสอบใกล้ชิด หากมีการบุกรุก็จะดำเนินคดีเด็ดขาด



ล่าสุดข่าว 3 มิติ ได้รับการยืนยันจากที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า เลขาธิการ ส.ป.ก. มีคำสั่งให้ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา รวม 6 คน ย้ายเข้ามาประจำการที่สำนักงาน ส.ป.ก.ส่วนกลาง ซึ่งเป็นการย้ายมาก่อน เพื่อเปิดทางการตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้กระจ่างโดยเร็ว